ปู่วัย 73 หวิดดับ ลองเครื่องเรือกลางแม่น้ำ ชนสายเคเบิลใต้สะพานคว่ำ น้ำซัดปลิว กู้ภัยโดดลงไปช่วย
วันที่ 12 ก.ย.64 เจ้าหน้าที่เวรศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีเรือเล็กติดเครื่องยนต์ ล่มอับปางบริเวณคลองแม่น้ำจันทบุรี ช่วงสะพานบ้านลาว หมู่ 13 ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยยังมีผู้รอดชีวิตเกาะติดอยู่กับเรือ ที่ถูกกระแสน้ำเชี่ยว พัดลอยไปตามคลอง หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ พร้อมชุดอุปกรณ์กู้ชีพทางน้ำ รีบรุดเดินทางไปให้ความช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุ ช่วงประตูระบายน้ำคลองภักดีรำไพ พบว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯที่มาประสบเหตุก่อนหน้าได้ให้การช่วยเหลือคนขับเรือ ที่ลอยคอติดมากับเรือขึ้นมาจากคลองได้แล้ว เป็นชายสูงวัย ชื่อ นายวิน อายุ 73 ปี โดยยังอยู่ในอาการเหนื่อยหอบ และตื่นตระหนก ขณะเรือที่พลิกคว่ำถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว พัดลอยไปตามลำคลองมุ่งหน้าไปทางประตูระบายน้ำที่ 3 ต.หนองบัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะนำเรือกลับมาได้
จากการสอบถาม นายวิน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำเรือเล็กอลูมิเนียมติดเครื่องยนต์ มาลองขับเพื่อวอร์มเครื่องยนต์ ภายในต้นแม่น้ำจันทบุรี จนมาถึงบริเวณใต้สะพานบ้านลาว พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้หัวเรือได้ไปพุ่งชนกับสายเคเบิลที่พาดใต้สะพานอย่างแรง จนเรือพลิกคว่ำอับปาง ขณะที่ตนได้ใช้มือคว้าจับกาบเรือไว้แน่น ก่อนที่จะถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยว พัดลอยไปตามลำคลอง ระหว่างนั้นได้พยายามส่งเสียงตะโกนเรียก เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ริมคลอง ต่อมาไม่นานก็มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ โทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ แล้วกระโดดลงน้ำมาช่วยเหลือตนจนรอดชีวิต
ขณะที่ นายณัฐพงศ์ พุ่มพร้อมจิตร อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ผู้ที่เสี่ยงตายกระโดดน้ำลงไปช่วยผู้ประสบเหตุ เล่านาทีระทึกว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีเรือล่มและมีคนติดมากับเรือ ถูกกระแสน้ำพัดลอยมาตามคลอง จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อมาถึงพบผู้ประสบเหตุ ยังเกาะอยู่กับเรือลอยอยู่กลางแม่น้ำ ซึ่งก่อนที่เรือจะถูกกระแสน้ำ พัดลอยมาเกือบถึงประตูน้ำ ผู้ประสบเหตุได้สละตัวออกจากเรือพร้อมกับรีบว่ายน้ำจนเกือบจะถึงฝั่ง แต่คาดว่าจะหมดแรงจึงได้ไปเกาะต้นไม้ริมคลอง ตนเอง จึงตัดสินใจกระโดดน้ำลงไปช่วย พร้อมกับใช้เชือกผูกมัดตัวผู้ประสบเหตุไว้จนมีเพื่อนกู้ภัยฯ มาช่วยเหลือนำตัวขึ้นฝั่งจนสำเร็จดังกล่าว