รีเซต

นายกฯ - DSI ทลายเหมืองบิตคอยน์เถื่อน โยงสแกมเมอร์ ทำรัฐสูญ 3 พันล้าน

นายกฯ - DSI ทลายเหมืองบิตคอยน์เถื่อน โยงสแกมเมอร์ ทำรัฐสูญ 3 พันล้าน
TNN ช่อง16
3 ธันวาคม 2568 ( 20:02 )
8

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงผลปฏิบัติการสำคัญของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในชื่อ "Operation Copperhead" ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2568

เดินหน้านโยบายปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์อย่างจริงจัง

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายหลักของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์, อาชญากรรมดิจิทัล, สแกมเมอร์ และการกระทำผิดออนไลน์อย่างจริงจัง โดยจะตรวจสอบเส้นทางการเงิน การฟอกเงิน ยึดอายัดทรัพย์สิน และบัญชีม้าที่เกี่ยวข้อง

นายอนุทินเน้นย้ำว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้าเพื่อทำเหมืองบิตคอยน์ของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ (จีนเทา/สัญชาติพม่า) ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ และทำให้รัฐสูญเสียพลังงานสูงมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและเรียกความเชื่อมั่นของประเทศ

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการตรวจสอบเรื่องการลักลอบใช้ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด

 ผลปฏิบัติการ "Copperhead": ยึดเครื่องขุด 3,642 เครื่อง

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ปฏิบัติการ "Operation Copperhead" เป็นการบูรณาการร่วมกับ กฟภ. (เขต 3 ภาคกลาง) เข้าตรวจค้น 7 จุด ในจังหวัดสมุทรสาคร (6 จุด) และอุทัยธานี (1 จุด) โดยของกลางที่ยึดได้เครื่องชุดบิตคอยน์ 3,642 เครื่อง มูลค่าอุปกรณ์รวมกว่า 300 ล้านบาท (เครื่องขุด 270 ล้านบาท, ระบบไฟฟ้า 30 ล้านบาท)

ผู้กระทำผิดได้ดัดแปลงตู้คอนเทนเนอร์ด้วยเทคโนโลยีใหม่เพื่อเก็บเสียงและใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบการลักลอบใช้ไฟฟ้า โดยปฏิบัติการนี้เป็นผลจากการขยายผลจากปฏิบัติการครั้งก่อนหน้า (Bitforge Operation) เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568

โยง "จีนเทา" และเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ

จากการขยายผลพบว่าผู้บงการรายใหญ่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม "จีนเทา" และเครือข่ายในพม่า ซึ่งเกี่ยวพันกับขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยเครือข่ายนี้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปี ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า มีเงินหมุนเวียนในเครือข่าย มากกว่า 5,000 ล้านบาท โดยเงินบางส่วนถูกโยงเข้าสู่ระบบสินทรัพย์ดิจิทัล (บิตคอยน์) เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้

ดีเอสไอกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อขยายผลด้านการฟอกเงินและการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง พร้อมประสานความร่วมมือกับประเทศผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงทางการจีน เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีและสกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ ย้ำนโยบาย "ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม" คดีสำคัญ

เมื่อถูกถามถึงการติดตามคดีสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม เป็นผู้กำกับดูแล โดยย้ำถึงนโยบาย "ปิดชื่อ ถือพฤติกรรม" ซึ่งการดำเนินคดีต้องยึดตามพฤติกรรมและสำนวนการกระทำความผิด ไม่ต้องสนใจว่าผู้กระทำผิดจะเป็นใคร ตำแหน่งอะไร หรือเป็นนักการเมืองก็ตาม 

เมื่อถามว่าส่วนประเด็นเรือนจำ "คุกวีไอพี" มีติดตามความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า "ทาง รมว.ยุติธรรม ได้ดำเนินการแล้ว อะไรที่มันอุกอาจ ท่านไม่ต้องห่วงผมหรอก ผมคนเพื่อนน้อย และไม่มีหนี้ที่ต้องไปใช้ตอบแทนอะไรใคร ส่วนกรณี นายมานพ ชมชื่น อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยื่นคำร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ซึ่งรายละเอียดต้องสอบถาม รมว.ยุติธรรม"

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนนโยบายเรื่องการปฏิรูปการทำงานของกรมราชทัณฑ์ได้ให้ไปหมดแล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และ รมว.ยุติธรรม กำลังดำเนินการอยู่ ในประเทศไทยไม่มีใครมีอำนาจเหนือกฎหมายได้ และไม่จำเป็นต้องสั่งการอธิบดีหรือใคร เพราะเขารู้อยู่แล้ว ยึดถือหลักอยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง