"13 เขตกทม." ติดเชื้อหนัก ผู้มีความเสี่ยงทะลุ 3 หมื่นคน เผยคนไทยจากตปท. เดินทางกลับไม่ต้องตรวจเชื้อก่อนบิน
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19) (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้มีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ได้แก่ อินเดีย 11 ราย เข้ามาวันที่ 8 พ.ค. เป็นสัญชาติไทยทุกราย ซึ่งคนไทยมีสิทธิเข้าประเทศได้ แต่เราไม่ได้ให้คนต่างชาติเข้ามา และการติดเชื้อเจอตั้งแต่วันแรก(วันที่ 0 ของการกักตัว) จำนวน 5 ราย พอเข้าสถานกักกันโรค ในวันที่ 1 เจออีก 6 ราย นี่คือระบบการดูแลคนในสถานที่กักกันในไทย เราทำกันมาตลอด และเป็นระบบที่เรายืนยันว่าปลอดภัย
“ถามว่าไม่ได้ตรวจมาก่อนเข้าประเทศไทยหรือ จริงๆแล้ว คนไทยเราไม่ได้ตรวจ เพราะมีสิทธิเข้าประเทศเมื่อไรก็ได้ จึงมาตรวจที่ประเทศไทย แต่ต่างประเทศเราทำระบบเพื่อควบคุม จึงขอทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนที่เหลือมาจากปากีสถาน ฟิลิปปินส์ และแอฟริกา ประเทศละ 1 ราย ส่วนกัมพูชา 3 ราย เป็นคนไทยเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง และเข้ารับการกักตัว ขอบคุณที่ทำหน้าที่ประชาชนคนไทยอย่างถูกต้อง ไม่ลักลอบเข้ามา เดินทางเข้ามาเมื่อป่วยเราดูแล นี่คือสิ่งที่เราทำมาตลอด ส่วนผู้ที่กำลังขอกลับมา ซึ่งกัมพูชาก็ต้องการให้คนต่างชาติออกมา จะไปอย่างถูกหรือไม่ถูกกฎหมาย ขอให้กลับมาอย่างถูกกฎหมาย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ข้อมูลวิเคราะห์จากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค นำจำนวนผู้เสียชีวิตในการระบาดระลอกเดือนเม.ย. จำนวน 327 ราย พบว่า เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว 86% ไม่มีโรคประจำตัว 14% ฉะนั้น เป็นความเสี่ยงที่เราต้องเรียกคนกลุ่มนี้มาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ส่วนอายุมัธยฐาน 65 ปี สถานที่ คือ กรุงเทพมหานคร(กทม.) 46% สมุทรปราการ 7% นนทบุรี 7% ปทุมธานี 4% และเชียงใหม่ 3% โดยสรุปแนวโน้มการติดเชื้อทรงตัว ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล สัมผัสกันในครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังพบคนทำผิดกฎหมาย เล่นพนัน คาราโอเกะ ตรงนี้ขอฝากฝ่ายมั่นคงและประชาชนช่วยกัน
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กทม.และปริมณฑล ติดเชื้อรวมกันวันนี้ 1,291 ราย จังหวัดอื่นๆ รวมกัน 621 ราย ส่วนอาการหนักปอดอักเสบ กทม. มีผู้ป่วยหนักจาก 476 ราย เป็น 507 ราย 512 ราย และ 527 ราย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหตุผลที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องไปดู โรงพยาบาลบุษราคัม ที่ อิมแพค เมืองทองธานี เพราะความเข้มข้นผู้ป่วยอาการหนักต้องใช้พื้นที่เตียง บุคลากร และไฮเทคโนโลยี เครื่อช่วยหายใจต่างๆ เยอะขึ้นด้วย ซึ่ง กทม.และปริมณฑลการเสียชีวิตยังเยอะ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีการนำเสนอชุดข้อมูลในเชิงบริหาร พบว่า มี 13 เขตในกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องลงไปทำงานเข้มข้น ได้แก่ คลองเตย ป้อมปราบศัตรูพ่าย ป้อมปราบศัตรูพ่าย ปทุมวัน ดินแดง วัฒนา ลาดพร้าว ราชเทวี พระนคร สวนหลวง ดุสิต สัมพันธวงศ์ และสาทร อย่างเมื่อวาน (10พ.ค.) การค้นหาเชิงรุกในชุมชนสูงสุด คือ คลองเตย 39 ราย สะสม 165 ราย ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 1,877 ราย เสี่ยงต่ำ 3 หมื่นราย นำมาตรวจแล้ว 2.2 หมื่นราย วันนี้จะตรวจเพิ่มขึ้น 2,000 ราย อย่างที่เจอ 2 หลัก เช่น ตลาดห้วยขวางที่ดินแดงเมื่อวานนี้ เจอ 99 ราย ปากคลองตลาดเขตพระนคร 81 ราย และตลาดชุมชนแออัดสี่แยกมหานาค เขตดุสิต 75 ราย ตัวเลขเหล่านี้จะนำมาบริหารสถานการณ์ ต้องรีบนำคนเจ็บป่วยออกจากชุมชนมาสู่การรักษาโดยเร็ว