เนปาลจำกัดจำนวนผู้เดินทางพิชิต 'ยอดเขาสูงสุดในโลก'
กาฐมาณฑุ, 22 เม.ย. (ซินหัว) -- รัฐบาลเนปาลประกาศใช้ระบบจำกัดจำนวนผู้เดินทางขึ้นสู่ยอดเขาโชโมลังมา เพื่อป้องกันปัญหาผู้คนแออัดบนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกกฎระเบียบใหม่นี้มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) โดยรัฐบาลเนปาลออกนโยบาย "มาก่อน ขึ้นก่อน" เพื่อให้นักปีนเขาบางกลุ่มที่ได้รับใบอนุญาตปีนเขาโชโมลังมาแล้ว สามารถเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาเป็นกลุ่มแรกในช่วงสภาพอากาศเอื้ออำนวยนักปีนเขากลุ่มอื่น ๆ จะได้รับอนุญาตให้ปีนเขาในช่วงสภาพอากาศเอื้ออำนวยช่วงอื่นๆ โดยหากนโยบายนี้นำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จะมีการอนุญาตให้คณะจัดการเดินทางจัดการเดินทางที่จำกัดสมาชิกไว้สูงสุด 170 คน ในแต่ละช่วงสภาพอากาศเอื้ออำนวยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยยังคงมีจำกัด ขณะบรรดานักปีนเขามุ่งหวังจะพิชิตยอดเขาที่มีความสูง 8848.86 เมตร ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การดำเนินการของรัฐบาลเนปาลเกิดขึ้นระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุ "จราจรติดขัด" บนเขาโชโมลังมาในปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่มีนักปีนเขา 644 คน ส่วนหนึ่งเป็นนักปีนเขาชาวต่างชาติ 280 คน พิชิตจุดสูงสุดของโลกอย่างไรก็ดี กระทรวงการท่องเที่ยวของเนปาลปฏิเสธแนวคิดการจราจรติดขัดและการแออัดยัดเยียดของผู้คนเป็นสาเหตุที่ทำให้นักปีนเขาเสียชีวิตมิรา อาชาร์ยา ผู้อำนวยการฝ่ายการปีนเขาของกระทรวงฯ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวเมื่อวันพุธ (21 เม.ย.) ว่ากฎระเบียบที่ออกมานั้นถูกบังคับใช้เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลได้จัดการการเดินทางอย่างเหมาะสม ไม่ได้ถูกกำหนดจากสมมติฐานที่ว่าเคยเกิดการจราจรติดขัดอนึ่ง นักท่องเที่ยวที่กลับจากการปีนเขาลูกหนึ่งและประสงค์จะปีนเขาอีกลูกหนึ่ง ต้องมีผลทดสอบกรดนิวคลีอิกและผลตรวจแบบพีซีอาร์ (PCR) ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นลบทั้งคู่ก่อน จึงจะได้รับใบอนุญาตปีนเขาครั้งถัดไป