เลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ: สังเวียนเดือด! ใครจะได้ใจชาวปทุมฯ?

สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายนนี้ กำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากพบการกระทำที่อาจส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งก่อนไม่สุจริตและเที่ยงธรรม

คู่ชิงหลักในสนามนี้ยังคงเป็น "ชาญ พวงเพ็ชร์" อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งที่แล้วแต่ถูกใบเหลือง กับ "พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" หรือ "บิ๊กแจ๊ส" อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และนายก อบจ. 1 สมัย ที่พ่ายแพ้ไปอย่างฉิวเฉียดในครั้งก่อน ทั้งสองฝ่ายต่างมีจุดแข็งและฐานเสียงของตัวเอง

บรรยากาศการหาเสียงครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองฝ่ายต่างระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ หันมาเน้นการใช้สื่อโซเชียลและเพจส่วนตัวในการสื่อสารกับประชาชน แทนการใช้รถแห่หรือป้ายหาเสียงขนาดใหญ่เหมือนเช่นเคย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงข้อครหาเรื่องการใช้อิทธิพลหรือทรัพยากรเกินขอบเขต

ที่น่าสนใจคือ แม้ "ชาญ" จะมีฐานเสียงเดิมที่แข็งแกร่งจากการเป็นนายก อบจ. 4 สมัย แต่คดีใบเหลืองก็อาจส่งผลต่อคะแนนนิยม เขาต้องพยายามอธิบายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ในขณะที่ "บิ๊กแจ๊ส" ก็มีภาพลักษณ์ของนักพัฒนาการศึกษาและเยาวชน รวมถึงบทบาทในด้านการแพทย์แผนไทยที่อาจดึงดูดคะแนนเสียงได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจด้านสุขภาพ

ประเด็นที่น่าจับตามองไม่แพ้กันคือท่าทีของ กกต. ที่ดูจะเข้มงวดมากขึ้นในการกำกับดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่มีการสั่งดำเนินคดีกับ "นายกเบี้ยว" นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ในข้อหาจัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การเคลื่อนไหวของ กกต. ในครั้งนี้อาจส่งผลให้ผู้สมัครและทีมงานต้องระมัดระวังการหาเสียงมากขึ้น และอาจส่งผลต่อกลยุทธ์การหาเสียงที่ต้องปรับเปลี่ยนไป

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องความสนใจของประชาชนต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งซ้ำในระยะเวลาไม่นาน อาจส่งผลต่อจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครทั้งสองจึงต้องเร่งกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด

ศึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานีครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การแข่งขันระหว่างผู้สมัครเท่านั้น แต่ยังเป็นบททดสอบความเข้มแข็งของกระบวนการเลือกตั้งท้องถิ่น และความสามารถในการรักษาความบริสุทธิ์ยุติธรรมของ กกต. อีกด้วย ผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ จึงอาจส่งผลกระทบไกลเกินกว่าแค่การเมืองในจังหวัดปทุมธานี แต่อาจเป็นบรรทัดฐานสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในอนาคต และอาจเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเลือกตั้งท้องถิ่นของไทยอีกด้วย

ภาพ TNN

เรียบเรียงโดย ยศไกร รัตนบรรเทิง บรรณาธิการ TNN