รีเซต

คุมเข้ม! ผู้โดยสารทุกประเทศเข้าไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์-ประกัน 1 แสนเหรียญ

คุมเข้ม! ผู้โดยสารทุกประเทศเข้าไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์-ประกัน 1 แสนเหรียญ
TNN ช่อง16
20 มีนาคม 2563 ( 09:04 )
123
2
คุมเข้ม! ผู้โดยสารทุกประเทศเข้าไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์-ประกัน 1 แสนเหรียญ

วันนี้ (20 มี.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ลงนามในประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย

ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 และประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรค นั้น

ปัจจุบันปรากฏว่าองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ประกาศยกระดับสถานการณ์แพร่ระบาดดังกล่าวเป็นโรคระบาดทั่วโลก (Pandemic) ดังนั้นเพื่อประโยชน์สาธารณะในการป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนภายในประเทศในวงกว้างและเพื่อการกำกับดูแลการบินพลเรือนในภาวะจำเป็นให้ได้อย่างทันท่วงที สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย ดังนี้

1.ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศเกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายกรณีเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และพื้นที่มีการระบาดต่อเนื่อง ประกาศ ณ วันที่ 18 มีนาคม 2563

2.ผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทยต้องได้รับการแยกกัก กักกัน ควบคุมไว้สังเกต หรืออยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออย่างอื่นตามที่พนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศกำหนด

3.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทยดำเนินการคัดกรองดังต่อไปนี้ ในเวลาที่ผู้โดยสารแสดงตัวเพื่อออกบัตรขึ้นเครื่อง (Check-in)

(1) ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ (Health certificate) ที่ออกให้ โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ซึ่งยืนยันว่ามีการตรวจผู้โดยสารแล้วไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

(2) ตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่แสดงการคุ้มครองการรักษาพยาบาลในประเทศไทยซึ่งครอบคลุมถึงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ

4.ในกรณีที่ผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทยเป็นผู้มีสัญชาติไทยให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศดำเนินการคัดกรองดังต่อไปนี้

(1) ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ (Fit to fly)

(2) ตรวจสอบหนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลใหญ่ หรือกระทรวงการต่างประเทศออกให้

5.หากพบว่าผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานตาม 3. หรือ 4. ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศปฏิเสธการขึ้นเครื่องและงดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding pass)

6.เมื่อได้คัดกรองผู้โดยสารตาม 3. หรือ 4. และออกบัตรขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารแล้วให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศจัดให้ผู้โดยสารกรอกข้อมูลแสดงที่พักที่สามารถติดต่อได้ในประเทศไทยตามแบบ ต.8 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 และยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินปลายทางหรือกับข้อมูลใน Application “AOT Airport of Thailand”

7.ผู้ดำเนินการเดินอากาศควรใช้มาตรการในการป้องกันโรคติดต่อบนอากาศยาน ดังต่อไปนี้

(1) จัดที่นั่งผู้โดยสารให้มีระยะห่างจากท่านมากที่สุดเท่าที่ทำได้ตั้งแต่เมื่อออกบัตรโดยสารและจัดพื้นที่ในห้องโดยสารไว้สำหรับเฝ้าระวังผู้โดยสารที่มีอาการไข้ไอ หรือเจ็บป่วย หากมีความจำเป็น

(2) แจ้งให้ผู้โดยสารทราบถึงวิธีการป้องกันโรคติดต่อและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเที่ยวบิน หรือจัดเตรียมอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นสำหรับการป้องกันตนเองจากการติดต่อ

(3) พิจารณาจำกัดการให้บริการในห้องโดยสาร เพื่อลดความจำเป็นในการเข้าใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานกับผู้โดยสาร

(4) กำหนดให้เจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย

8.เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสารต้องดำเนินการฆ่าเชื้อหรือทำความสะอาดอากาศยานตามมาตรฐานที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศกำหนด

9.เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมีอำนาจออกคำสั่งตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ดังต่อไปนี้

(1) ห้ามผู้ใดเข้าไปในหรือออกจากอากาศยานที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และห้ามนำพาหนะอื่นใดเข้าเทียบอากาศยานนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

(2) ดำเนินการหรือออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(ก) กำจัดความติดโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ของโรค

(ข) จัดให้อากาศยานจอดอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนดให้จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจะอนุญาตให้ไปได้

(ค) ให้ผู้เดินทางซึ่งมากับพาหนะนั้นรับการตรวจในทางแพทย์ และอาจให้แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่กำหนด

10.ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการตาม 3., 4. หรือ 5. ผู้ดำเนินการเดินอากาศจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งผู้เดินทางซึ่งมากับอากาศยานนั้น เพื่อแยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตลอดทั้งออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

11.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่ออันตรายและมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตรายตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยเคร่งครัด

12.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งแนวปฏิบัติดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีต้นทางและเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานให้ทราบและถือปฏิบัติ และให้เจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานประกาศเพิ่มเติมบนอากาศยานให้ผู้โดยสารทราบโดยทั่วกัน

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 00.00 น. ของประเทศไทย เป็นต้นไป

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง