เบลารุส ซึ่งส่งเครื่องบินขับไล่ประกบเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ จับกุมนักข่าวที่ต่อต้านรัฐบาล
Editor’s Pick: โลกกำลังตกตะลึงกับปฏิบัติการของทางการเบลารุส ซึ่งส่งเครื่องบินขับไล่ประกบเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ที่บินผ่านเหนือน่านฟ้าตน เพื่อบังคับให้ลงจอด และนำตัวนักข่าวที่ต่อต้านรัฐบาลเบลารุสออกจากเครื่องบิน จนทำให้ตอนนี้นานาชาติออกมาประณามการกระทำดังกล่าว
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อวันอาทิตย์ (23 พฤษภาคม) สายการบินไรอันแอร์ เที่ยวบิน FR4978 บินจากกรีซ ไปยังจุดหมายปลายทางที่ลิทัวเนีย ถูกเครื่องบิน MiG-29 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่บินประกบขณะบินเหนือน่านฟ้าเบลารุส และสั่งให้ลงจอดในกรุงมินสก์ ของประเทศเบลารุส โดยอ้างว่ามีระเบิด
หลังจากนั้นมีการนำตัวนายรามัน โปรตาเซวิช วัย 26 ปี ผู้สื่อข่าวชาวเบลารุสที่ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งลี้ภัยอยู่ต่างแดน และแฟนสาวชาวรัสเซียลงจากเครื่องบิน ก่อนให้เครื่องบินขึ้นบินอีกครั้ง
เว็บไซต์ติดตามการบินเผยว่า เครื่องบินถูกสั่งลงจอดขณะอยู่ห่างจากพรมแดนลิทัวเนียเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว เครื่องบินได้ลงจอดที่กรุงวีลนิอุส ของลิทัวเนีย ในเวลาราว 21.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 7 ชั่วโมง
โปรตาเซวิช คือใคร ทำไมเบลารุสต้องจับตัว
สำหรับนายโปรตาเซวิช ที่ถูกจับกุมตัวไป เป็นผู้ก่อตั้งสถานีข่าวที่นำเสนอเรื่องราวการประท้วงต่อต้านรัฐบาลลูกาเชนโก จนถูกรัฐบาลเบลารุสขึ้นบัญชีว่ากระทำการเข้าข่ายก่อการร้าย ทำให้ต้องลี้ภัยไปที่โปแลนด์
ทาดีอุส กิกซาน บรรณาธิการของ Nexta สื่อที่นายโปรตาเซวิคเคยทำงานด้วย ทวีตข้อความว่า สายลับของ KGB หน่วยสืบราชการลับของเบลารุสได้ขึ้นเครื่องบินลำดังกล่าวมาด้วย และเป็นคนแจ้งข่าวระเบิด
ด้านผู้โดยสารที่มากับเครื่องบินลำดังกล่าว บอกกับสำนักข่าว AFP ว่า เมื่อนายโปรตาเซวิครู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาได้บอกกับผู้คนว่า เขาจะถูกประหารชีวิต ขณะที่ผู้โดยสารอีกคนระบุว่า นายโปรตาเซวิครีบเปิดช่องเก็บของเหนือศรีษะทันทีเมื่อได้รับแจ้งเรื่องการลงจอดกระทันหัน และนำแลปทอป รวมทั้งโทรศัพท์มือสือส่งให้เพื่อนสาวที่เดินทางมาด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีลิทัวเนียระบุว่า หญิงคนดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องต่อ
ด้านไมเคิล โอ ลีรีย์ ซีอีโอของสายการบิน Ryan Air ระบุว่า นี่คือกรณีของการจี้เครื่องบินที่มีรัฐเป็นผู้สนับสนุน ดูเหมือนเป็นความตั้งใจที่ทางการต้องการนำนักข่าวและเพื่อนร่วมเดินทางออกมาจากเครื่องบิน และเชื่อว่ามีสายลับเคจีบีอยู่ที่สนามบินด้วย แต่เขาไม่สามารถเผยได้มากกว่านี้เพราะนาโต้และอียูกำลังดำเนินการอยู่
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สายการบินแอร์บอลติก ของลัตเวีย ประกาศสายการบินจะไม่ใช้น่านฟ้าของเบลารุสแล้ว
ปฏิกิริยานานาชาติ
หลายชาติ EU ระบุว่า เบลารุส เป็น "รัฐก่อการร้าย" พร้อมกับมีกระแสเรียกร้องให้อียูและกลุ่มชาติสมาชิกนาโต้ เข้าแทรกแซงเรื่องนี้โดยเร็ว ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ โดมินิก ราบ เตือนถึงพฤติกรรมครั้งนี้ว่า จะต้องมีผลกระทบที่้ร้ายแรงตามมา
สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ผู้นำ 27 ชาติสมาชิก EU กำลังประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันในวันจันทร์และวันอังคาร เพื่อหารือทิศทางความสัมพันธ์กับรัสเซียและสหราชอาณาจักรพอดี จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่า ผู้นำทั้งหลายจะหารือเรื่องของเบลารุสด้วย
โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของ EU ระบุว่า ทางการเบลารุสพยายามจะปิดปากเสียงคัดค้านทั้งหมดอย่างโจ่งแจ้งอีกครั้ง ส่วนประธานาธิบดีลิทัวเนียกล่าวว่า นี่คือการก่อการร้ายที่รัฐสนับสนุน พร้อมกับเสนอให้อียูห้ามเครื่องบินของเบลารุสเข้าท่าอากาศยานของอียูและใช้มาตรการลงโทษอย่างจริงจังกับรัฐบาลเบลารุส
ท้องฟ้าไม่ปลอดภัยอีกแล้ว
อินกริดา ซิโมไนต์ นายกรัฐมนตรีลิทัวเนีย ระบุว่า น่านฟ้าเบลารุสไม่ปลอดภัยแล้วสำหรับทุกคน
“นี่คือการโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประชาคมโลก เมื่อเครื่องบินพลเรือนและผู้โยสารถูกจี้โดยกองทัพ และพลเมืองเบลารุสถูกลักพาตัว ชีวิตและสุขภาพของเขาอยู่ในภาวะอันตราย” นายกฯ ลิทัวเนีย กล่าว
“ไม่มีเหตุผลชอบธรรมใดที่นักเดินทางระหว่างประเทศทั่วๆไปถูกจับเป็นตัวประกันต่อการรุกราน นี่คือการก่อการร้ายของรัฐต่อความปลอดภัยของพลเมืองสหภาพยุโรปและชาติอื่น ๆ ภาคประชาสังคมของเบลารุส รวมถึงการบินพลเรือนระหว่างประเทศ กำลังต้องการการปกป้องจากการข่มเหงของทางการเบลารุส น่านฟ้าเบลารุสไม่ปลอดภัยสำหรับทุกคน“