ส้มหล่น! ยอดขายสมาร์ตโฟนจากจีนในรัสเซียทิ้งห่างซัมซุงและแอปเปิล

ไฟสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมไปทั่วโลก ตั้งแต่ราคาน้ำมัน สินค้าการเกษตร ลามไปถึงผลกระทบต่อคนรัสเซียเอง อย่างเช่นสินค้าไอที และสมาร์ตโฟน อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการส่งออกสินค้าอื่น ๆ ดังนั้นกระแสการบริโภคและจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศรัสเซียจึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก รวมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดของสมาร์ตโฟนในรัสเซียด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) ได้รับข้อมูลจาก MTS (Mobile TeleSystems) ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือชื่อดังของรัสเซีย ซึ่งให้บริการทั้งในรัสเซีย อาเมเนีย และเบลารุส เกือบ 85 ล้านเลขหมาย ว่าในตอนนี้ยอดขายสมาร์ตโฟนที่เป็นของจีนหลายเจ้านั้นคิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์ มากกว่ายอดขายของแบรนด์ดังจากเกาหลีใต้อย่างซัมซุง (Samsung) และแบรนด์จากประเทศคู่ปรับอย่างแอปเปิล (Apple) รวมกันที่ประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์
จากการรายงานข้อมูลการขายสมาร์ตโฟนในรัสเซียที่จัดทำในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาของ MTS พบว่าแบรนด์จีนอย่าง เสียวหมี่ (Xiaomi) เรียลมี (Realme) และออเนอร์ (Honor) เป็นสามแบรนด์จากจีนที่ครองส่วนแบ่งรวมกันกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบจากข้อมูลเดือนเดียวกันในปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่งรวมกันอยู่ที่ 28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ในขณะที่ซัมซุง (Samsung) แบรนด์ใหญ่ของโลกจากเกาหลีใต้ก็ยังคงมียอดขายอยู่ที่ 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้หมดโอกาสที่จะเอาส่วนแบ่งใหญ่สุดในเค้กก้อนนี้ไปได้โดยปริยาย ส่วนแอปเปิล (Apple) แบรนด์สินค้าไฮเทคจากสหรัฐอเมริกามียอดขายตกลงจากเดิมในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วที่ 12 เปอร์เซ็นต์ลงมาเหลือ 9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคมปีนี้
ทั้งซัมซุง (Samsung) และแอปเปิล (Apple) ต่างเป็นแบรนด์ที่ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนในการคว่ำบาตรรัสเซียเพื่อประท้วงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งทำให้สินค้าที่ยังเหลืออยู่ในตอนนี้เป็นสินค้าคงคลังที่ค้างไว้ก่อนหน้าการประกาศการทำปฏิบัติการทางการทหารพิเศษเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการสำรวจของ MTS พบว่ายอดขายโดยรวมปีต่อปีตกลงกว่า 26 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า สะท้อนถึงปัญหาทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อผู้บริโภค โดยเป็นผลจากการที่ทางการรัสเซียถูกคว่ำบาตรจากทางฝั่งตะวันตก รวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ประสบปัญหาจากการแทรกแซงทั้งภายในและนอกรัสเซีย โดยในขณะนี้ ทางการรัสเซียได้แก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการจัดตั้งโครงการนำเข้าแบบคู่ขนาน ซึ่งเป็นการอนุญาตให้บริษัทเอกชนในรัสเซียนำเข้าสินค้าที่จำเป็นต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตเพื่อแก้ปัญหาสินค้าต่าง ๆ รวมถึงสมาร์ตโฟนที่กำลังขาดแคลนในรัสเซียอยู่ในขณะนี้
ที่มาข้อมูล Reuters
ที่มารูปภาพ Unsplash