รมว.ศธ. สั่งปิดสถานศึกษาชายแดนพุ่ง 1,168 แห่ง เปิด 102 โรงเรียนเป็นศูนย์พักพิง

สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่ยังคงยืดเยื้อ ทำให้ภาคการศึกษาได้รับผลกระทบโดยตรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศธ.จำเป็นต้องสั่งปิดสถานศึกษาเพิ่มเป็น 1,168 แห่ง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรในทุกระดับพื้นที่ ขณะเดียวกัน โรงเรียนจำนวน 102 แห่ง ในจุดที่ปลอดภัยเพียงพอ ถูกจัดตั้งเป็นศูนย์พักพิงรองรับประชาชนที่อพยพออกจากเขตเสี่ยงไฟปะทะ

รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ระบุว่า ทุกหน่วยงานในสังกัดได้รับคำสั่งให้ติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์ความเสี่ยงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้ยังไม่พบความเสียหายเพิ่มเติมต่ออาคารหรือครุภัณฑ์ แต่ทุกโรงเรียนต้องเตรียมแผนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะในภาวะความไม่แน่นอนของสถานการณ์ชายแดน

ในด้านการสนับสนุนพื้นที่ ศธ.ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ส่งกำลังนักเรียนอาชีวะเข้าร่วมภารกิจต่างๆ ทั้งการติดตั้งระบบไฟฟ้า การจัดทำอาหารในพื้นที่ศูนย์พักพิง พัฒนาระบบโรงครัวพระราชทานที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รวมถึงสนับสนุนกองทัพในการจัดส่งยุทธภัณฑ์ ถือเป็นบทบาทสำคัญที่ช่วยเสริมกำลังเจ้าหน้าที่หน้างานให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นท่ามกลางภารกิจเร่งด่วน

ศธ.เตรียมแผนฟื้นฟูระยะหลังวิกฤติ โดย ศ.ดร.นฤมล ย้ำว่า เมื่อสถานการณ์ปลอดภัยเพียงพอ จะส่ง Fix It Center ลงพื้นที่เพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ทำกิน เครื่องจักรการเกษตร และครุภัณฑ์ของชุมชน เป้าหมายคือเร่งคืนความสามารถในการประกอบอาชีพให้ประชาชนได้เร็วที่สุด ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ตกค้างจากความตึงเครียดชายแดน