สนามบินขอนแก่นเปิดปกติ1พ.ค.ไม่สวมหน้ากากห้ามเข้า แนะเดินทางล่วงหน้า2ชม.
สนามบินขอนแก่น พร้อมเปิดให้บริการตามปกติด้วยมาตรการคุมเข้มโควิด-19 สั่งห้ามคนไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้าใช้บริการภายในอาคารและทำการบินเด็ดขาด แนะเดินทางล่วงหน้าก่อนทำการบิน 2 ชั่วโมง
วันที่ 29 เมษายน ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย น.ส.ธนิสรา สิงหกุล รอง ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น ตรวจสอบความพร้อมการกลับมาให้บริการของสายการบินพาณิชย์ และระบบการให้บริการของท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น ในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและผู้โดยสารขาออก ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กรมท่าอากาศยานได้บังคับใช้มาตรการดังกล่าวอย่างเข้มงวดในทุกสนามบิน ภายหลังจากที่สายการบินพาณิชย์เตรียมกลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป
ขณะที่สายการบินพาณิชย์ ที่กำหนดกลับมาให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่สนามบินขอนแก่น นั้นประกอบด้วยไทยแอร์เอเชีย เส้นทางขอนแก่น-ดอนเมือง วันละ 1 เที่ยวบิน,สายการบินไทยไลออนแอร์ เส้นทาง ขอนแก่น-ดอนเมือง วันละ 1 เที่ยวบิน ขณะที่สายการบินนกแอร์ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติในเส้นทางขอนแก่น-ดอนเมือง วันละ 1 เที่ยวบิน ขณะที่สายการบินไทยสมายล์
ในเบื้องต้นขออนุญาตกลับมาทำการบินในเดือน มิ.ย.ในเส้นทางขอนแก่น-สุวรรณภูมิ วันละ 1 เที่ยวบิน ทำให้ตลอดทั้งวันในวันนี้เจ้าหน้าที่ของสายการบินต่างๆ ต่างกลับเข้ามาตรวจสอบระบบการให้บริการและระบบการทำงานของสายการบินฯ หลังหยุดให้บริการนานกว่า 1 เดือน รวมทั้งการรับทราบถึงมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กรมท่าอากาศยาน กำหนดบังคับใช้อย่างเข้มงวด ขณะที่สนามบินแก่นยังคงทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร และพื้นผิวสัมผัสทุดจุดด้วยการพ่นยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์ รวมทั้งการทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบ และการตีเส้นเว้นระยะห่างในจุดบริการผู้โดยสารและการกำหนดที่นั่งในจุดพักรอตามมาตรการของการเว้นระยะห่างทางสังคม
ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า มาตรการคุมเข้มที่กรมท่าอากาศยานได้กำหนดังคับใช้ซึ่งถือเป็นแนวทางการปฎิบัติที่ท่าอากาศยานทุกแห่งจะต้องปฎิบัติตามอย่างเข้มงวดในช่วงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งขอนแก่นนั้นพร้อมที่จะกลับมาให้บริการอีกครั้งตามที่ได้รับการประสานจากสายการบินพาณิชย์ที่จะเริ่มกลับมาให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งทุกคนที่จะเข้ามาใช้บริการที่อาคารผู้โดยสาและพื้นที่โดยรอบสนามบินขอนแก่นจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคน ที่ไม่สวมใส่สนามบินจะไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด อีกทั้งสายการบินพาณิชย์ก็กำหนดชัดเจนว่าผู้โดยสารจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาในทำการบินด้วยเช่นกัน
“เราได้มีการกำหนดประตูสำหรับการเข้าอาคาร คือที่ชั้น 2 ในส่วนของอาคารผู้โดยสารขาออก 1 ประตูและชั้น 1 อาคารผู้โดยสารขาเข้า 2 ประตู ซึ่งจัดเป็น 3 ประตูหลักที่ทุกคนจะใช้ในการเข้าและออกภายในตัวอาคารเท่านั้น ซึ่งทุกประตูจะมีการตรวจคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกายหากมีอุณหภูมิเกิน 37.3 องศาเซลเซียสก็จะให้พักรอในจุดที่กำหนดไว้โดยมีเจ้าหน้าที่ซักประวัติทันที เมื่อตรวจการตรวจแล้วก็จะต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการบริการการโดยสารของสายการบิน ซึ่งสนามบินได้ตีเส้นตามการเว้นระยะห่างทางสังคม ทั้งที่จุดจำหน่ายบัตรโดยสาร จุดตรวจสอบบัตรที่นั่งโดยสาร จุดพักรอ จุดตรวจสัมภาระและตรวจร่างกาย ที่ผู้โดยสารทุกคนจะต้องปฎิบัติตามกฎ ระเบียบ และเส้นที่เราได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด”ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าว
ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าวต่ออีกว่า บางสายการบินได้ออกข้อกำหนดคือการไม่อนุญาตให้ถือสัมภาระขึ้นเครื่องบิน โดยจะอนุญาตให้ถือเพียงกระเป๋าส่วนตัวขนาดเล็กขึ้นเครื่องบินเท่านั้น ส่วนสัมภาระนั้นให้โหลดใต้เครื่องบินในอัตราคนละ 7 กก. โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องตรวจสอบข้อมูลกับสายการบินอีกครั้ง อีกทั้งหลังจากที่กำหนดเวลาในการทำการบินนั้น เมื่อผ่านการตรวจสอบบัตรที่นั่งโดยสารรอบสุดท้ายภายในอาคารพักผู้โดยสารชั้นใน ผู้โดยสารทุกคนจะถูกตรวจวัดอุณหภูมิซ้ำอีกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งหากตรวจวัดไม่ผ่านสายการบินก็จะไม่อนุญาตให้ทำการบินในเที่ยวบินนั้นทันที
“สำหรับผู้โดยสารขาเข้าเมื่อลงจากเครื่องก็จะผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิผ่านระบบเทอร์โมแสกน ที่ติดตั้งไว้ที่ ชั้น 1 โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคประจำอยู่ตลอดเวลา หากพบการตรวจไม่ผ่านก็จะเข้ารับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่ห้องแยกเฉพาะที่กำหนดไว้ และหากผ่านการตรวจแล้วก็จะต้องเข้ารับการตรวจซ้ำอีกครั้งที่ด่านตรวจของกรมท่าอากาศยานเพื่อลงบันทึกข้อมูลและยืนยันตัวบุคคล ผ่านระบบแสกนและการแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะรับสัมภาระ ที่มีการกำหนดจุดยืน เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดด้วย”ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าว
ว่าที่ ร.ต.อัธยา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แนะนำให้ผู้โดยสารเดินทางมาตรวจบัตรที่นั่งโดยสารหรือเดินทางมาก่อนเวลาทำการบินอย่างน้อยที่สุด 2 ชั่วโมง เนื่องจากทุกคนจะเข้ารับการตรวจตามขั้นตอนของการควบคุมอย่างเข้มงวดทั้งขาเข้าและขาออก ดังนั้นหากมาในเวลาที่กระชั้นชิดก็อาจที่จะไม่ทันต่อการเดินทางอีกด้วย