ททท.โคราช ดันแพ็คเกจกระตุ้นศก.หลังกระแสปิด 'ปาลิโอ' ทำปชช.ไม่มั่นใจ หวั่นท่องเที่ยวไม่ฟื้น
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสสังคมออนไลน์นำเสนอข้อมูลว่า ปาลิโอ เขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ปิดกิจการลง และรอกลุ่มทุ่นใหม่เข้ามาร่วมกิจการนั้น ได้สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดและนักท่องเที่ยวที่เคยแวะเวียนไปเที่ยวชมเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่รู้สึกสงสัยและกังวลใจว่า สาเหตุที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวจุดเช็คอินชื่อดังแห่งนี้ต้องปิดตัวลง มาจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด จนรัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและออกมาตรการป้องกันควบคุมอย่างเข้มข้นทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยว หรือว่ามาจากสาเหตุอื่นๆ
ล่าสุดนางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า กรณี “ปาลิโอ เขาใหญ่ (Palio Khao Yai)” มีข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า ได้ปิดกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรอกลุ่มทุนใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์นั้น เบื้องต้นทราบว่า ปาลิโอ เขาใหญ่ มีสัญญาณการปิดกิจการมาสักระยะหนึ่งแล้ว เพราะมียอดขายตกลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีคนมาเที่ยวน้อยลง ซึ่งจริงๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อาจจะมีการปิดตัวลงของกิจการประเภทเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ทั้งโรงแรมที่พักและสถานที่ท่องเที่ยว เพราะเริ่มมีการส่งสัญญาณออกมาบ้างแล้ว เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างหนักนานหลายเดือน ทำประชาชนไม่มั่นใจหวั่นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไม่ฟื้น
“อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พยายามหาแนวทางเยียวยาช่วยเหลือ โดยล่าสุด มีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ด้วยการผลักดันงบประมาณ 22,400 ล้านบาท มาดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ผ่านโครงการ “เที่ยวปันสุข” ซึ่งจะมี 3 แพ็คเกจ ประกอบด้วย 1) แพ็คเกจ “กำลังใจ” งบประมาณ 2,400 ล้านบาท เป็นแพ็คเกจสร้างขวัญกำลังใจตอบแทนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล รวมถึง อสม.และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่ทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อควบคุมป้องกันโควิด-19 ไม่ให้ระบาดในประเทศ โดยรับบาลจะสนับสนุนค่าเดินทางไปท่องเที่ยงให้กับกลุ่มนี้ตามเงื่อนไข คนละไม่เกิน 2,000 บาท 1 คน 1 สิทธิ์ ประมาณ 1.2 ล้านคน 2) แพ็คเกจ “เราไปเที่ยวกัน” งบประมาณ 18,000 ล้านบาท ที่กระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปได้ออกมาเที่ยวแบบ “ไทยเที่ยวไทย” มากขึ้น ซึ่ง 1 คน จะได้รับ 1 สิทธิ์ โดยรัฐบาลจะช่วยค่าที่พัก 40 % ต่อคืน สูงสุดไม่เกินคืนละ 3,000 บาท ได้รับสิทธิ์สูงสุดไม่เกิน 5 คืน และ 3) แพ็คเกจ “เที่ยวปันสุข” งบประมาณ 2,000 บาท ที่ผลักดันออกมาช่วยสายการบิน รถโดยสาร รถเช่า รถไม่ประจำทาง โดยรัฐจะช่วยค่าโดยสาร 40 % สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท คิดเป็นตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ ซึ่ง 1 คนจะได้รับ 1 สิทธิ์ ซึ่งทั้ง 3 แพ็คเกจจะต้องมีการลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม ธนาคาคกรุงไทย โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม” นางรุ่งทิพย์ กล่าว
นางรุ่งทิพย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของ ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ททท.สาขานครราชสีมา ได้ส่งเสริมให้เกิดรูปแบบ การท่องเที่ยวอีสานวิถีใหม่สไตล์ NewNormal เป็นการปรับตัวและปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวรูปโฉมใหม่ ยกระดับการท่องเที่ยวในภาคอีสานให้มีความสะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานอย่างทั่วถึงตามแนวทางมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) ด้วยแนวคิด “5 คิดถึง” ประกอบด้วย คิดถึง…กอล์ , คิดถึง…อาหารจานโปรด, คิดถึง…แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ, คิดถึงแหล่งท่องเที่ยวสุขภาพ และ คิดถึง…ท่องเที่ยวชุมชน เพื่อต้องการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในประเทศ กระตุ้นให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์โควิด19 คลี่คลาย และที่สำคัญ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย และช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวได้โดยตรง