ทช.ขยายถนนทางเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ วัดป่าบ้านตาด คืบหน้า 42% หนุนความปลอดภัยปชช.-นักท่องเที่ยว
กรมทางหลวงชนบท เพิ่มความสะดวกปลอดภัยให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่มาสักการะพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ขยายถนนทางเข้ากว่า 7 กิโลเมตร คืบหน้ากว่า 42 % คาดแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2565
กรมทางหลวงชนบท ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 – พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี รองรับปริมาณการจราจรของประชาชนที่เดินทางมาสักการะบูชาพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยในการเดินทาง เป็นการยกระดับมาตรฐานทางหลวงชนบท ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาของจังหวัด สอดรับกับนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้รับหนังสือขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ของถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 – พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่ออำนวยความสะดวก รองรับปริมาณการจราจรของพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางมาสักการะบูชาพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)ณ วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ให้สอดคล้องกับจำนวนของผู้ที่จะเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ในอนาคตทั้งนี้ ทช.จึงได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขณะนี้มีก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 42 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2565 โดยการก่อสร้างมีระยะทางรวม 7.395 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกได้ดังนี้
ช่วง กม.ที่ 0+000 เชื่อมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (กม.ที่ 447) รูปแบบโครงการเป็นถนนผิวจราจรคอนกรีต เสริมเหล็ก 4 ช่องจราจร ช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร ความยาว 800 เมตร
ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 1+100 (กรณีเขตทาง 60 เมตร) รูปแบบโครงการเป็นถนนผิวจราจรแอสฟัลท์ติก
คอนกรีต 4 – 6 ช่องจราจร ช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร ปรับปรุงภูมิทัศน์ ภูมิสถาปัตยกรรมบริเวณเกาะกลางและวงเวียน
ช่วง กม.ที่ 1+100 ถึง กม.ที่ 7+395 (กรณีเขตทาง 20 – 30 เมตร) รูปแบบโครงการเป็นถนนผิวจราจรแอสฟัลท์ติก คอนกรีต 4 ช่องจราจร ช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 1.50 – 2.50 เมตร
นอกจากนี้ ทช.ยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการออกแบบภูมิทัศน์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและ
ความสวยงาม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นสายทาง ได้กำหนดให้มีจุดพักคอยหรือจุดนัดพบ บริเวณต้นทางขาเข้าและปลายทางขาออกของโครงการ พร้อมก่อสร้างทางเท้ากว้าง 5 เมตร และรองรับผู้พิการ พร้อมศาลาพักคอยผู้โดยสาร ประกอบกับในส่วนของภูมิทัศน์จัดให้มีไม้พุ่มดอก, จัดวางในกระถางคอนกรีตสำเร็จรูปเป็นช่วงๆ และได้มีการประดับด้วยต้นถั่วบราซิลดอกเหลืองสวยงามตลอดสายทาง รวมถึงได้นำต้นไม้ประจำจังหวัดอย่างต้นทองกวาวที่มีดอกสดสีแดงปลูกเพื่อกันแนวเขตที่ดินของสายทางอีกด้วย