รีเซต

ผู้ว่าฯ กทม. - CEO ซีพีเอฟ คิกออฟ โครงการ "กล้าจากป่า พนาในเมือง(กทม.)"

ผู้ว่าฯ กทม. - CEO ซีพีเอฟ คิกออฟ โครงการ "กล้าจากป่า พนาในเมือง(กทม.)"
TNN ช่อง16
11 ตุลาคม 2565 ( 16:25 )
64

ผู้ว่าฯ กทม "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" จับมือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ คิกออฟ โครงการ "กล้าจากป่า พนาในเมือง (กทม.)" ปลูกต้นไม้ใน กทม. หนุนนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง พร้อมทั้งแจกกล้าไม้ให้คนกรุงเทพฯ นำไปปลูกที่บ้าน ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และบรรเทาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน ส่งต่อเมืองสีเขียวให้คนรุ่นต่อไปนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ กทม. และซีพีเอฟ ร่วมเปิดตัวโครงการ “กล้าจากป่า พนาในเมือง(กทม.)” สนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง โดยกิจกรรมครั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ชมนิทรรศการ "จากภูผา สู่ป่าชายเลน" เพื่อสร้างมั่นคงทางอาหาร ซึ่งบริษัทฯ ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและป่าชายเลน ส่งเสริมสถานประกอบการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ไฮไลท์ของกิจกรรม ผู้ว่าฯ กทม. และซีอีโอ ซีพีเอฟ ได้ร่วมกันปลูกต้นจำปาป่า ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็ว ให้ร่มเงา พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังได้รับมอบกล้าไม้จากซีพีเอฟ เพื่อนำไปกระจายต่อให้คนกรุงเทพฯร่วมกันปลูกต้นไม้ และร่วมกันแจกกล้าไม้ให้ประชาชนนำไปปลูกที่บ้าน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัด ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขอขอบคุณในความร่วมมือของซีพีเอฟที่มาร่วมโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้นกับกทม. ร่วมมือกันสร้างเมืองที่มีคุณภาพเพื่อส่งต่อให้ลูกหลานของเรา ความสำเร็จของโครงการฯ ในวันนี้ มาจากความร่วมมือกันของประชาชนและเอกชนทุกภาคส่วน เพราะเมืองเป็นของทุกคน และซีพีเอฟเป็นตัวอย่างที่ดีที่เข้ามาให้ความร่วมมือซึ่งช่วยเติมเต็มให้โครงการฯ ทั้งสนับสนุนเรื่องกล้าไม้จากแหล่งเพาะทำให้ได้กล้าไม้ที่แข็งแรง เพื่อกระจายกล้าไม้ให้กับประชาชนปลูกได้มากขึ้น บริษัทฯ ยังมีองค์ความรู้และประสบการณ์ ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและป่าชายเลน เป็นสิ่งที่ดีที่ซีพีเอฟเข้ามาช่วยให้โครงการประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยปัจจุบัน มีภาคเอกชนมาร่วมโครงการปลูกต้นไม้แล้วรวม 1,640,000 ต้นนายประสิทธิ์ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยยึดปรัชญาสามประโยชน์ คือ ไม่ว่าจะเข้าไปทำธุรกิจที่ไหนก็ตาม เราต้องมีส่วนร่วมเป็นสมาชิกที่ดี ต้องทำให้สังคมและประเทศดีขึ้น รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในเรื่องหลักที่สำคัญมากของซีพีเอฟ เรามีความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะคิดว่าการที่บริษัทจะอยู่ได้อย่างมั่นคง สังคม สิ่งแวดล้อม ประเทศต้องดีก่อน ขอขอบคุณ กทม. ที่ให้โอกาสซีพีเอฟเข้าร่วมทำกิจรรมดีๆ และร่วมกันดำเนินโครงการกล้าจากป่า พนาในเมือง (กทม.) สนับสนุนการปลูกต้นไม้ ตามนโยบายที่ผู้ว่ากทม.มีเป้าหมายจะปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัทต่างๆ รวมทั้งคน กทม. และคนในประเทศไทยทุกคนที่ปรารถนาดีและรักประเทศ โดยมีผู้นำที่นำโครงการดีๆ และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเข้ามาดูแล ซีพีเอฟเป็นอีกส่วนหนึ่งที่อาสาสมัครเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการของ กทม. ถ้าเราทำให้ กทม. เป็นเมืองสีเขียวได้ ก็จะเป็นการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเราและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยกิจกรรมในวันนี้ ผู้ว่าฯ กทม. และซีอีโอ ซีพีเอฟ ยังได้ร่วมกันแจกกล้าไม้ให้ประชาชนและผู้สนใจ มีทั้งไม้ยืนต้น 4 ชนิด ได้แก่ พะยูง กฤษณา ยางนา มะขาม และไม้ฟอกอากาศหรือไม้มงคล อาทิ ออมชมพู เงินไหลมา พลูแอ๊ปเปิ้ล บับเบิ้ลมาร์ค มอนเตอร่า อคูมินาต้า ซึ่งกล้าไม้เหล่านี้ ซีพีเอฟจ้างงานชุมชนรอบเขาพระยาเดินธงเพาะกล้าและดูแลจนกล้าไม้แข็งแรง เป็นการกระจายอาชีพและสร้างรายได้สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง และในส่วนของประชาชนที่รับกล้าไม้ไปปลูก สามารถบันทึกข้อมูลต้นไม้ที่เราปลูกได้ใน "ปลูกอนาคต" เพียงเพิ่มใน Line ค้นหาชื่อ @tomorrowtreeสำหรับโครงการกล้าจากป่า พนาในเมือง (กทม.) นอกจากเป็นการสนับสนุนนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้นของกทม.แล้ว ยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals) ข้อ 13 สร้างความตระหนักรู้ และขีดความสามารถของมนุษย์และของสถาบันในเรื่องการลดผลกระทบและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ข้อ 15 ส่งเสริมการดำเนินการด้านการบริหารจัดการป่าไม้ทุกประเภทอย่างยั่งยืน หยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่า ฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรม และเพิ่มการปลูกป่าและฟื้นฟูป่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง