อุทยานกุยบุรี เติมน้ำ-ปรับปรุงแปลงหญ้า เพิ่มความสมบูรณ์แหล่งอาหารสัตว์ป่า ลดการเผชิญหน้า คน-ช้าง
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เติมเต็มแหล่งน้ำ อาหารให้ สัตว์ป่า ช้างป่า กระทิง วัวแดง ป้องกันขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้า ระหว่างชาวบ้าน กับ ช้างป่า
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นางสุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ประเทศไทย ปรับปรุงแหล่งน้ำ แหล่งอาหารให้สัตว์ป่า ซึ่งเป็นแหล่งอาหารหลักของ ช้างป่า กระทิง วัวแดง อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งเติมน้ำในบ่อน้ำธรรมชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ ไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป และป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าออกมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน และไม่ย้ายถิ่นไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกล่า
นางสุพร กล่าวอีกว่า สำหรับป่ากุยบุรีเป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ และชีวภาพ แหล่งรวมพันธุ์ไม้หายาก และถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้าง กระทิงวัวแดง เสือโคร่ง สมเสร็จ สัตว์ป่าอยู่อย่างสมบูรณ์มาเป็นร้อยปี ที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาขัดแย้งกันระหว่างคนกับช้างป่า คนไปบุกรุกที่ช้าง ช้างเข้ากัดกินพืชไร่ ทำให้ช้างป่าถูกฆ่าตายไปหลายตัว
ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ นำผืนป่าที่นายทุนคืนให้ทางราชการ มาปรับปรุงจนกลายเป็น “โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ทรงมีพระราชดำริ ให้ปลูกป่าเพื่อยังความชุ่มชื้นคืนธรรมชาติ และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าทั้งปวง ทรงมีพระราชดำรัสคนกับช้าง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2542 ว่า
“ช้างป่าควรอยู่ในป่า เพียงแต่ต้องสร้างแหล่งอาหารใหักับช้างเพียงพอ การปฏิบัติต้องไปสร้างแหล่งอาหารในป่าเป็นแปลงเล็กๆ และกระจาย กรณีช้างออกมาที่ชายป่าต้องให้ความปลอดภัยกับช้าง..”
หลังจากนั้นตั้วแต่ปี 2542 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงได้มีการสร้างแหล่งอาหารให้กับสัตว์ป่าต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน