รีเซต

ททท.ลั่นเปิดประเทศอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกลับมาแน่ปี’65 หลังฟุบไป 2 ปี

ททท.ลั่นเปิดประเทศอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกลับมาแน่ปี’65 หลังฟุบไป 2 ปี
มติชน
3 พฤศจิกายน 2564 ( 14:25 )
46

เวลา 11.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ร่วมงานสัมมนา “Boost Up Thailand 2022” รูปแบบไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “เดินหน้าทะลุโจทย์ประเทศไทย” จัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน ว่า การที่รัฐบาลเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ในแง่ของททท.เรียกว่าเป็นการออกอาวุธมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก เพราะขณะนี้ทั่วโลกมีนโยบายการบริหารประเทศอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ต้องการให้ทัวริสซึมหรือการท่องเที่ยวอยู่กับโควิดให้ได้ อีกกลุ่มคือเป็นรัฐบาลที่ต้องการจะเน้นการควบคุมการระบาดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ยกตัวอย่าง อาทิ ประเทศจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ นโยบายองรัฐบาลจะเน้นให้คุมเคสให้ได้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ จะออกกฎเหล็กมาควบุคุมการใช้วิถีชีวิตผู้คน ซึ่งกลุ่มทัวริสซึมเซกเตอร์ที่ไม่พ้นความเข้มข้นในลักษณะนั้น ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง อาทิ ยุโรป อเมริกา จะใช้ชีวิตกับโควิดไปเลย ระดมฉีดวัคซีน ให้บริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง ในส่วนของประเทศไทยเราเข้าใจว่าการที่รัฐบาลไทยเลือกมาทางเปิดประเทศ เป็นการเลือกทางที่จะใช้ชีวิตอยู่กับตรงนี้ให้ได้ เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 15-20% ของจีดีพี จึงเป็นเซกเตอร์ที่มีความสำคัญ

 

“หลังจากนี้ไปจะเริ่มเห็นการรีซูมกลับมาของอุตสาหกรรมนี้เรื่อยๆ จะไม่เห็นในไตรมาสที่1หรือไตรมาสที่2 ของปี 2565 ในทันที แต่จะค่อยขยับขึ้นไป เนื่องจากยังมีปัญหาหลายๆอย่างที่ต้องแก้กันต่อไป ซึ่งการเปิดประเทศในลักษณะนี้ เป็นสเต็ปของเข้าสู่โหมดให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมา“นายธเนศวร์กล่าว

 

ทั้งนี้ หลังโควิดบรรยากาศการท่องเที่ยวจะไม่เหมือนเดิม คงจะไม่ได้เห็นภาพกองทัพนักท่องเที่ยวมาเป็นรถโคชจอดจำนวนมาก ภาพนี้จะน้อยลงไปหรือแทบจะไม่มีเลย ซึ่งสถานการณ์โควิดเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวจะเดินทางกับคนที่เขาไว้ใจ เป็นกลุ่มเล็ก หลีกเลี่ยงการเข้าไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก

 

อีกอย่างที่จะเห็น คือ จะใช้ดิจิทัลเป็นเหมือนแผนที่เดินทางในการใช้ชีวิต จะมีการวางแผน เริ่มหาข้อมูลมาก เลือกหาพื้นที่ที่แน่ใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค โรงแรมที่ไปพักมีพนักงานได้รับวัคซีนครบโดส จากโควิดจะทำให้การใช้ชีวิตที่ใส่ใจกันมากขึ้น โดยดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ กลุ่มนิวเจน และเป็นกลุ่มที่ททท.มองอยู่แล้ว อย่างนักท่องเที่ยวอินเดียเดิมเป็นระดับกลาง บน ล่าง แต่หลังจากนี้ไทยจะให้ความสนใจกลุ่มคนใช้จ่ายมากขึ้น จากข้อมูลของสำนักงานททท.ที่ดูไบ นักท่องเที่ยวผู้หญิงอินเดีย จะมาแรงมากๆ เป็นสิ่งที่ททท.มอนิเตอร์มาโดยตลอด

 

โครงสร้างใหม่ของอุตสาหกรรมการท่องที่ยวจะเปลี่ยนไป คือ จะไม่พูดถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวปีละ 40 ล้านคนอีกแล้ว จะโฟกัสตัวเลขใหม่ ไม่ใช่เชิงจำนวน เป็นในเชิงรายได้ ต้องทำให้ได้ 15-20% ของจีดีพี ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยลง จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่น้อยลงไปด้วย เรื่องนี้จะต้องทำงานกับทุกภาคส่วนมากขึ้น

 

ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยต้องมีภูมิต้านทานมากขึ้น นั่นคือตลาดโดแมสติก คนไทยด้วยกันเที่ยวให้มากขึ้น ก่อนที่จะเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จริงๆรัฐบาลได้ออกกลไกในการบูสต์เม็ดเงินเข้าไปในเรื่อง ”โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” การจองห้องพักดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ซัพพลายไซส์ของการท่องเที่ยว เริ่มหายใจได้ดีขึ้น หลังจากเป็นซีโร่มาตลอดใน 2 ปีที่ผ่านมา และสัดส่วนในอดีตรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากคนไทยอยู่ที่ 30% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งททท.จะพยายามบาลานซ์รายได้การท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นของคนไทยให้เข้ามา อาจจะไม่เท่ากับต่างประเทศ แต่ให้ขยับขึ้นอยู่ที่ 40-60% หรือ 50-55% เห็นได้ชัดว่าที่ปิดประเทศไทยไป 2 ปี รายได้ที่หล่อเลี้ยงอยู่ได้ด้วยรายได้จากคนไทย

 

“สรุปการท่องเที่ยวกลับมาแน่นอนในปี 2565 แต่จะเป็นการค่อยๆกลับมา การกลับมาครั้งนี้ควรจะถอดบทเรียนว่ากลับมาอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นคนที่เป็นคุณภาพ สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้ คือ โควิดสอนให้ท้องถิ่นได้เรียนรู้ถึงการทำงานอย่างบูรณาการมากขึ้น ซึ่งเรื่องท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเรื่องของท้องถิ่น ทอท.เป็นพี่เลี้ยงมาให้เขามูฟการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพราะว่าททท.ยังยืนยันว่าอยากให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือที่แท้จริงในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย” นายธเนศวร์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง