กาฬโรค : จีนยกระดับเตือนภัยหลังพบผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกของปีนี้
รายของทางการระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้ซึ่งมีอาชีพเป็นคนเลี้ยงสัตว์ในเมืองบายันนูร์ อยู่ระหว่างถูกกักตัวและอาการป่วยคงที่ เขาเป็นผู้ป่วยรายแรกที่ได้รับการยืนยันหลังมีผู้ป่วยต้องสงสัยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง
กาฬโรค เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยถึงตายได้ แต่สามารถรักษาได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ สำหรับผู้ป่วยรายนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อจากแหล่งใด
การเตือนภัยของทางการจีนครั้งนี้ เป็นการเตือนภัยระดับ 3 จากความรุนแรงทั้งหมด 4 ระดับ ทางการสั่งห้ามการล่าสัตว์หรือรับประทานสัตว์ที่อาจเป็นพาหะนำเชื้อกาฬโรคและให้ประชาชนรายงานเหตุต้องสงสัยที่คาดว่าเกี่ยวกับการติดเชื้อของโรคนี้
ปัจจุบันมีรายงานผู้ป่วยกาฬโรคเป็นระยะจากทั่วโลก เช่น ที่มาดากัสการ์ พบผู้ติดเชื้อกว่า 300 คน ในช่วงที่เกิดการระบาดเมื่อปี 2017 ขณะที่เมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว พบว่ามีผู้ป่วย 2 คนเสียชีวิตด้วยกาฬโรคที่มองโกเลีย โดยเป็นการติดเชื้อภายหลังรับประทานเนื้อกระรอกดินดิบ
สำนักงานองค์การอนามัยโลกในเมืองอูลันบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย ระบุกับบีบีซีว่าผู้รับประทานมีความเชื่อว่าเนื้อกระรอกดิบและไตของมันเป็นยาพื้นบ้านที่ดีต่อสุขภาพ แต่สัตว์ชนิดนี้เป็นพาหะของแบคทีเรียกาฬโรค ซึ่งที่ผ่านมาพบความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยหลายรายในประเทศ อีกทั้งการล่ากระรอกดินก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ผู้รับเชื้อกาฬโรคจะมีอาการต่อมน้ำเหลือโต แต่ในการติดเชื้อระยะแรกจะยากแก่การวินิจฉัย เพราะมักจะพบว่ามีอาการหลังจาก 3-7 วัน หลังจากติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อที่ศูนย์สุขภาพสแตนฟอร์ดในอังกฤษ บอกกับสำนักข่าวเฮลธ์ไลน์ว่าไม่มีแนวโน้มที่การพบผู้ติดเชื้อกาฬโรคหรือที่ถูกเรียกว่า "มรณะสีดำ" จะนำไปสู่การระบาด ซึ่งต่างจากการระบาดในศตวรรษที่ 14 เนื่องจากตอนนี้การแพทย์มีความก้าวหน้าเท่าทันภาวะการติดต่อของโรคชนิดนี้ และรักษาได้ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ
กาฬโรคหรือ "มรณะสีดำ" ทำให้ผู้คนในแถบแอฟริกา เอเชีย และยุโรป กว่า 50 ล้านคนเสียชีวิต เมื่อศตวรรษที่ 14 เคยระบาดในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักรเมื่อปี 1665 คร่าชีวิตคนไป 1 ใน 5 ขณะที่ในจีนและอินเดีย เคยเกิดการระบาดในศตวรรษที่ 19 มีผู้เสียชีวิตกว่า 12 ล้านคน