BBIK กำไรไตรมาส 4/67 นิวไฮตามคาด บล.ทิสโก้-บล.ดาโอ มองเชิงบวก

#BBIK #ทันหุ้น – บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2567 กำไรสุทธิ 301 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.51 บาท เพิ่มขึ้น 8.09% ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.22 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เม.ย.68 จ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พ.ค.68
ผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามที่โบรกเกอร์คาดการณ์ บล.ทิสโก้ และบล.ดาโอออกบทวิเคราะห์วันที่ 20 ก.พ. มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568 ดังนี้
บล.ทิสโก้ระบุว่า BBIK รายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/67 แข็งแกร่งที่ 103 ล้านบาท เติบโต 17% QoQ และ 33% YoY สอดคล้องกับประมาณการของเราและ consensus (102 ล้านบาท) ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2567 อยู่ที่ 301 ล้านบาท เติบโต 8% YoY ทั้งนี้ BBIK ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.22 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2567
โมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องตลอดในไตรมาส 4/67
Backlog ของ BBIK (ไม่รวม JV และบริษัทร่วม) ปิดปีที่ระดับสูง 842 ล้านบาท เทียบกับ 709 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 4/66 การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยหนุน Backlog ของ BBIK รายได้เติบโต 5% QoQ และ 10% YoY สนับสนุนโดยฤดูกาลส่งมอบโครงการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะธุรกิจ Digital Delivery, ERP และ AI (ทั้งหมดเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูง) อัตรากำไรสุทธิขยายตัว QoQ เป็น 26% ในไตรมาส 4/67 จาก 24% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้น (การใช้ประโยชน์จากพนักงาน)
คาดไตรมาส 1/68 แข็งแกร่ง
เราคาดการณ์ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องจาก BBIK การขยายตัวของ Backlog น่าจะมาจากการใช้จ่ายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดำเนินอยู่ และโครงการรัฐบาลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัล (ประกาศในมกราคม 2568) การเติบโตของรายได้น่าจะยังคงแข็งแกร่ง สนับสนุนโดยการฟื้นตัวของ Backlog ขณะที่การใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานและสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI จะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิ
บล.ทิสโก้คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BBIK โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 52.25 บาท
เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BBIK และชอบมากกว่า BE8 เนื่องจาก 1) ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูงกว่า 2) การใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานที่สูงกว่า และ 3) การฟื้นตัวของ Backlog ที่เร็วกว่า มูลค่าที่เหมาะสมของเราที่ 52.25 บาทสำหรับ BBIK อิงจาก P/E ปลายปี 2025 ที่ 27.9 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี) ความเสี่ยงด้าน downside ที่สำคัญ : ความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ การแข่งขันที่รุนแรง และความเสี่ยงด้านชื่อเสียง
.
บล.ดาโอระบุว่า กำไรไตรมาส 4/67 ดีขึ้นตามคาด ทำ new high จากรายได้ + GPM เพิ่มขึ้น บล.ดาโอยังคงแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมาย 52.00 บาท อิง 2568 PER ที่ 28 เท่า (-1.0 SD below 3-yr average PER) BBIK รายงานไตรมาส 4/67 มีกำไรสุทธิ ทำสถิติสูงสุดใหม่ 103 ล้านบาท (+32% YoY, +17% QoQ) ใกล้เคียง consensus และเราทำไว้ โดยเป็นผลจาก 1) รายได้เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ 409 ล้านบาท (+10% YoY, +5% QoQ) ตาม backlog ที่ยังสูง และลูกค้าเร่งปิดงานก่อนสิ้นปี,
2) GPM เพิ่มขึ้นเป็น 53.8% (ไตรมาส 4/66 = 45.2%, ไตรมาส 3/67 = 46.9%) เนื่องจากงานโดยรวมมี GPM สูงขึ้น และมีการปรับปรุงรายได้บางรายการ
และ 3) ส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุน JV ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 22 ล้านบาท (-7% YoY, -6% QoQ) เนื่องจากมีการเร่งรับรู้รายได้ในงวดก่อนหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2567 มีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 301 ล้านบาท +8% YoY
บล.ดาโอยังคงประมาณการกำไรปี 2568 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องที่ 369 ล้านบาท +22% YoY ตามการลงทุนด้าน digital transformation ที่จะสูงขึ้น ทั้งจากอานิสงส์การเร่งลงทุน cyber security โดยเฉพาะจากธุรกิจธนาคารและสื่อสาร, การลงทุน data center และ AI ที่มากขึ้น ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเร่งปรับเปลี่ยนให้เป็น digital และช่วงกลางปี 2568 จะเห็นความชัดเจนในด้านการรับงานเกี่ยวกับ Virtual Bank ทั้งนี้ เรายังคาดหวัง backlog ไตรมาส 1/68 จะกลับมาดีขึ้น จากสิ้นปี 2567 ที่จะยังลดลง เนื่องจากอยู่ระหว่างเข้าประมูลงาน และมีการเร่งรับรู้รายได้ก่อนสิ้นปีค่อนข้างมาก
ราคาหุ้น underperform SET -4% ใน 3 เดือน ตามทิศทาง SET Index ที่เป็นขาลง ซึ่ง BBIK เป็นหุ้นที่ beta สูงที่ 1.4 (ข้อมูล Bloomberg ย้อนหลัง 2 ปี) แต่ outperform SET +4% ใน 1 เดือน จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 ที่จะปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ เรายังแนะนำ ซื้อ และประเมินว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform SET ได้ดีขึ้น ตามภาพการลงทุน digital transformation ในปี 2568 ที่จะกลับมาเร่งตัวมากขึ้น