หมดโควิดพฤติกรรมคนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเปลี่ยน ไม่เน้นหรู – หันซ่อมมากกว่าซื้อ

หมดโควิดพฤติกรรมคนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเปลี่ยน ไม่เน้นหรูแค่พอใช้ – หันซ่อมมากกว่าซื้อ คาดกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขายดี หลังผู้บริโภคใช้ไอทีคล่องขึ้น ดันไทยสู่ยุค 4.0 เร็วขึ้น

นายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า หากโควิด-19 จบลง เชื่อว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป จะซื้อสินค้าไม่เน้นความหรูหรา หรือมีราคาแพง จะหันมาซื้อสินค้าที่พอใช้ได้ ราคาเหมาะสม โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะขายดีมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคได้เรียนรู้การใช้ระบบไอที และการซื้อขายออนไลน์ในช่วงวิกฤติโรคโควิด-19 ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มไอที อุปกรณ์ไอโอที และกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นจะรุนแรงขึ้น ทำให้ไทยปฏิรูปไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสดีของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวได้เร็ว

นายสุภาพ กล่าวว่า สำหรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมประหยัดมากขึ้น ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง ส่วนใหญ่เมื่อเสีย จะเน้นการซ่อมแซมมากกว่าการซื้อใหม่ ต่างจากพฤติกรรมที่ผ่านมาเน้นการซื้อใหม่ ทำให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าตกลงไปมาก โดยเฉพาะในสินค้ากลุ่มเครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ขณะที่กลุ่มเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เมื่อเทียบกับกลุ่มไฟฟ้า และบางสินค้ากลับได้รับผลบวกด้วย อาทิ กลุ่มฮาร์ดดิสก์ เนื่องจากนโยบายการรักษาระยะห่าง(โซเชียล ดิสเทนซิง) ทำให้มีการทำงานที่บ้านมากขึ้น มีการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อเชื่อม โดยเฉพาะปริ้นเตอร์ กลุ่มนี้จึงมียอดขายเพิ่มขึ้น

“โควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์บางส่วน เบื้องต้นมีมูลค่ายอดขายลดลงประมาณ 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะตลาดภายในประเทศ จะกระทบมากกว่าตลาดส่งออก แต่ขณะนี้ยังไม่มีโรงงานในกลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ฯ ปิดชั่วคราวหรือปิดกิจการ ยกเว้นการปิดตามนโยบายรัฐบาล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค”นายสุภาพกล่าว

นายสุภาพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นผลกระทบชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากทางประเทศแถบยุโรป และสหรัฐ ปิดเมืองและหยุดกิจการการซื้อขาย ทำให้ไม่มีคำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามา หลายโรงงานคาดการณ์คำสั่งซื้อในอนาคตจะลดลงจึงเริ่มลดกำลังการผลิต กระทบต่อเป็นทอดๆในห่วงโซ่การผลิตชิ้นส่วน โดยเฉพาะในสินค้าเครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้ากระทบหนักสุด โดยรัฐบาลควรออกมาตรการเข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอี ให้ผ่านพ้นในช่วงยากลำบากนี้ไปได้ อาทิ ปรับระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้เอื้อประโยชน์ต่อสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ เพื่อแข่งขันกับสินค้าของจีนได้ หากใช้เกณฑ์ต้องซื้อสินค้าราคาต่ำที่สุด สินค้าไทยจะสู้จีนได้ยาก เพราะโรงงานจีนมีขนาดใหญ่ผลิตสินค้าเป็นจำนวนมาก จึงมีต้นทุนต่ำกว่าไทย ทำให้สินค้าไทยเข้าสู่การจัดซื้อภาครัฐได้ยาก