รีเซต

"Haier" ทุ่ม 14,700 ล้าน ปักหมุดไทยฐานหลักเครื่องใช้ไฟฟ้าอาเซียน l การตลาดเงินล้าน

"Haier" ทุ่ม 14,700 ล้าน ปักหมุดไทยฐานหลักเครื่องใช้ไฟฟ้าอาเซียน l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
25 กันยายน 2568 ( 11:38 )
5

มร.โจว หยุนเจี๋ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม New S-Curve ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต โดยมีอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเสาหลักที่มีศักยภาพสูง การลงทุนครั้งใหญ่นี้จึงไม่เพียงสะท้อนความเชื่อมั่นของไฮเออร์ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย แต่ยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน ที่เชื่อมโยงครบทั้งห่วงโซ่อุปทาน การผลิต การวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงการส่งออกสู่ตลาดโลก อีกทั้งยังเป็นหมุดหมายสำคัญของความร่วมมือไทย–จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตในปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนจีนต่อศักยภาพ ความมั่นคง และบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของไทยบนเวทีเศรษฐกิจโลก

การลงทุนในโรงงานแห่งใหม่นี้สอดรับกับยุทธศาสตร์ S-Curve และนโยบาย Thailand 4.0 ด้วยการยกระดับสู่มาตรฐานการผลิตใหม่ ผ่านเทคโนโลยี Smart Manufacturing และระบบจัดการที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) 

พร้อมวางแผนการผลิตไว้เป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มเดินสายการผลิตเครื่องปรับอากาศในเดือนกันยายน 2568 จำนวน 3 ล้านเครื่อง มูลค่าประมาณ 14,700 ล้านบาท จากนั้นจะขยายกำลังผลิตเป็น 3.5 ล้านเครื่อง มูลค่า 17,800 ล้านบาทในปี 2569 และแตะระดับสูงสุดที่ 6 ล้านเครื่อง มูลค่าราว 31,150 ล้านบาทภายในปี 2570 ซึ่งจะทำให้โรงงานแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการรองรับความต้องการทั้งในประเทศและการส่งออกไปยังตลาดโลก

สำหรับโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศไฮเออร์แห่งที่ 2 ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 324,000 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) จังหวัดชลบุรี ควบคู่กับการสร้างงานในพื้นที่กว่า 3,000 ตำแหน่ง รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน โรงงานแห่งนี้ยังถือเป็น ยุทธศาสตร์สำคัญของไฮเออร์ ในการเสริมศักยภาพการผลิตและการส่งออก รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในอาเซียน ตะวันออกกลาง และตลาดโลก พร้อมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งภายในประเทศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนจนถึงการประกอบขั้นสุดท้าย ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาให้เป็นฐานนวัตกรรมด้านเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะในการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงทุนระยะยาวที่ไม่ได้มุ่งแค่การสร้างโรงงาน แต่พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาระบบการผลิตครบวงจรในรูปแบบ Smart Factory ใช้ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง ควบคู่กับการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมและ R&D เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกันยังมุ่งสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ (New S-Curve) ของประเทศไทย และเสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งมั่นใจว่าก้าวต่อไปของไฮเออร์จะช่วยผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่สำคัญของอาเซียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง