เผยฤกษ์ฟินแลนด์ร่วมนาโต้-ข่าวกรองยูเครนฟันธงรัสเซียบุกแน่โมลโดวา

สื่อฟินแลนด์เผยฤกษ์เข้านาโต้ 12 พ.ค. ยูเครนเร่งอพยพพลเรือนมาริอูโปล ข่าวกรองชี้รัสเซียเตรียมบุกประเทศโมลโดวาเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการฟินแลนด์เตรียมประกาศการตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ภายหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซียสร้างความหวาดผวาให้กับฟินแลนด์ที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียยาว 1,300 กิโลเมตร รวมถึงสวีเดนเพื่อนบ้านของฟินแลนด์

อิลทาเลห์ติ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในฟินแลนด์อ้างแหล่งข่าวระดับสูงจากภายในรัฐบาลฟินแลนด์ ว่าการประกาศจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนในวันดังกล่าว เริ่มด้วยการประกาศความเห็นชอบโดยประธานาธิบดีเซาลี นีนิสเตอ ผู้นำฟินแลนด์ และบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายการขอเข้าร่วมนาโต้

รายงานระบุว่า หากฟินแลนด์และสวีเดนตัดสินใจเข้าร่วมนาโต้จะถือเป็นการละทิ้งหลักการรักษาสันติภาพด้วยการไม่เลือกข้างที่ยึดถือมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่ทางการรัสเซียเคยขู่ไว้ว่าหากทั้งสองชาติเข้าร่วมนาโต้ก็จะดำเนินการติดตั้งขีปนาวุธเหนือเสียงและหัวรบนิวเคลียร์ที่ชายฝั่งแคว้นคาลินินกราดทันที

ด้านคืบหน้าสงครามในประเทศยูเครน ล่าสุด ทางการยูเครนอยู่ระหว่างวางแผนช่วยเหลืออพยพเพิ่มเติมอีกเนื่องจากยังมีพลเรือนตกค้างอยู่ในเมืองมาริอูโปลจำนวนมากหลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือพลเรือนออกมาได้ราว 100 คน จากซากปรักหักพังในนิคมอุตสาหกรรมอาซอฟสตอลซึ่งถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อมและยิงถล่ม

พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดสุดท้ายที่อยู่ในความควบคุมของยูเครนหลังรัสเซียประกาศชัยชนะในการปลดปล่อย (ยึดครอง) เมืองมาริอูโปลได้สำเร็จ ส่งผลให้พลเรือนและทหารยูเครนจำนวนมากพากันไปตั้งฐานที่มั่นในนิคมข้างต้นแต่ต่อมาถูกประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งปิดล้อมโดยระบุไว้ว่า "แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็ไม่ให้ผ่านออกมาได้"

การอพยพที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากความตกลงระหว่างทางการยูเครนและรัสเซีย โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุถึงการอพยพที่เกิดขึ้นว่า พลเรือนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากนิคมไปยังพื้นที่อื่นที่ถูกควบคุมโดยยูเครนสามารถทำได้ ซึ่งภารกิจนี้ทางรัสเซียยกให้สหประชาชาติ หรือยูเอ็น และผู้แทนจากคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือไอซีอาร์ซี เป็นผู้อำนวยภารกิจ

หญิงรายชาวยูเครนรายหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือถึงกับกล่าวทั้งน้ำตาขณะเล่าประสบการณ์ที่ได้รับช่วงที่ตนและครอบครัวหลบภัยอยู่ในอุโมงค์ใต้นิคม ว่าไม่ได้เห็นแสงแดดมานานกว่า 2 เดือนแล้ว และคิดว่าตนเองคงไม่มีชีวิตรอดระหว่างที่รัสเซียยิงถล่มอย่างหนักหน่วง ขณะที่พลเรือนที่ได้รับความช่วยเหลือบางคนถึงกับระบุว่า "นรกมีจริงและมันอยู่ที่มาริอูโปล"

ด้านข่าวกรองจากกระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุว่า รัสเซียกำลังวางแผนโจมตีประเทศโมลโดวา ชาติเป็นกลางที่มีกองทัพขนาดเล็กและกำลังทหารไม่กี่พันนายรวมถึงไม่ใช่สมาชิกนาโต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครนเพื่อตัดขาดเมืองโอเดซา เมืองท่องเที่ยวและเมืองท่าสำคัญของยูเครนทางใต้ตามแผนการตัดขาดยูเครนออกจากทะเลดำ ท่ามกลางความตึงเครียดในแคว้นทรานส์นิสเตรียของโมลโดวาที่กองกำลังฝักใฝ่รัสเซียลอบโจมตีต่อเนื่อง

ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงพิธีสวนสนามวันที่ 9 พ.ค.นี้ เนื่องในวันแห่งชัยชนะที่เฉลิมฉลองวันที่อดีตสหภาพโซเวียตมีชัยชนะเหนือพรรคเยอรมันนาซีในสงครามโลกครั้งที่สอง ว่ารัสเซียไม่มีแผนที่จะรวบรัดเพื่อยุติ "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" ลงภายในวันดังกล่าว และว่าพัฒนาการของปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารรัสเซียเป็นอันดับแรก