จับตา "นาโต" จะประชุมหารือเหตุรัสเซียล้ำน่านฟ้าประเทศสมาชิก

สภาแอตแลนติกเหนือขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) จะประชุมในวันนี้ (23 กันยายน) เพื่อหารือเกี่ยวกับการละเมิดน่านฟ้าเอสโตเนียของรัสเซีย โดยรัฐบาลเอสโตเนีย ระบุว่า เครื่องบินรบ MiG-31 ของรัสเซียจำนวน 3 ลำ ได้บินรุกล้ำน่านฟ้าเอสโตเนียโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และอยู่ในน่านฟ้านานถึง 12 นาที ก่อนที่จะถูกบังคับให้ถอนตัวออกไป

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว เอสโตเนียได้ยื่นคำร้องขอให้มีการปรึกษาหารือภายใต้ มาตรา 4 ของสนธิสัญญาวอชิงตัน โดยเรียกการบุกรุกครั้งนี้ว่าเป็น “การกระทำที่อุกอาจและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ทั้งนี้ มาตรา 4 ของนาโต ระบุว่า สมาชิกจะต้องหารือร่วมกันเมื่อสมาชิกชาติใดชาติหนึ่งเห็นว่าอธิปไตย ความเป็นอิสระทางการเมือง หรือความมั่นคงของตนถูกคุกคาม

ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเครื่องบินของตนบินอยู่เหนือน่านน้ำสากล ไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนีย

การบุกรุกครั้งนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดจากสงครามในยูเครน และเพียงไม่กี่วันหลังจากมีโดรนของรัสเซียกว่า 20 ลำรุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์ในคืนวันที่ 9-10 กันยายน ซึ่งนาโตต้องส่งเครื่องบินขับไล่ยิงตกไปหลายลำ และเจ้าหน้าที่ตะวันตกเชื่อว่า รัสเซียกำลังทดสอบความพร้อมและความมุ่งมั่นตั้งใจของพันธมิตรนาโต

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต แถลงเมื่อวานนี้ (จันทร์) ว่า โปแลนด์จะตัดสินใจยิงวัตถุบินได้ที่ละเมิดน่านฟ้าและเป็นภัยต่อประเทศโดยไม่ลังเล แต่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่ชัด จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง

คำแถลงของเขามีขึ้นหลังจากเอสโตเนียกล่าวหาว่าเครื่องบินรบรัสเซีย 3 ลำ ละเมิดน่านฟ้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งยิ่งเพิ่มความรู้สึกในหมู่ผู้นำนาโตว่า รัสเซียกำลังทดสอบความพร้อมและความเด็ดขาดของพันธมิตรนาโต หลายประเทศเรียกร้องให้มีการตอบโต้ที่เข้มงวด

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีกำหนดประชุมในวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ส่วน คาจา คัลลัส หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวเมื่อวานนี้ว่า หากเครื่องบินรัสเซียละเมิดน่านฟ้า “ทุกประเทศมีสิทธิ์ในการป้องกันตนเองและดำเนินการตามสมควร” 

เธอยังกล่าวอีกว่า มีเวลาอย่างจำกัดในการบรรลุข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจในยุโรป เพื่อชะลอการกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงโอกาสที่จะเกิดข้อตกลงดังกล่าว เธอตอบเพียงว่า “ยากที่จะบอกได้” คัลลัสให้สัมภาษณ์ที่สหประชาชาติ หนึ่งวันก่อนการเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปี