กทม.ใช้ AI ตรวจจับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ฝ่าฝืนมีโทษอย่างไร
เปิดรายละเอียด กทม.ใช้กล้องวงจรปิด AI ตรวจจับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ฝ่าฝืนมีโทษอย่างไร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า กรุงเทพมหานครได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการสัญจรบริเวณทางเท้าที่ยังคงพบว่ามีรถจักรยานยนต์ขับอยู่บนฟุตบาทและสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับประชาชน
ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้แก้ปัญหาโดยการให้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจยืนประจำจุดที่มีการแจ้งเพื่อจับ ปรับผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งจากการปฎิบัติงานพบว่าจะมีปัญหาในเรื่องการกระทบกระทั่งกับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์รวมไปถึงความไม่โปร่งใสในการทำงาน
กรุงเทพมหานครจึงได้ติดตั้งกล้อง CCTV และนำระบบ AI เข้ามาใช้ในการอ่านทะเบียนรถผู้ที่ขับขี่บนทางเท้า ซึ่งได้นำมาใช้ทดสอบหลายเดือนที่ผ่านมา โดยให้ขีดเส้นบริเวณที่จะมีการติดตั้งกล้องหากมีผู้กระทำความผิดหรืออยู่ในจุดที่ห้ามจอดจะสามารถจดจำทะเบียนได้
หลังจากนั้นจะมีการดำเนินการกับผู้ที่กระทำความผิดโดยมีการเสียค่าปรับจำนวน 2,000 บาทและเชื่อมโยงข้อมูลกับทางขนส่งทางบกว่าเจ้าของรถคันนี้คือใครอยู่ที่ไหน
ที่ผ่านมาทำการทดสอบไปแล้วจำนวน 5 จุด เช่นบริเวณซอยเสือใหญ่อุทิศ หรือ รัชดา 36 พบว่ามีผู้กระทำความผิดกว่า 2,000 คันต่อวัน ซึ่งการนำระบบ AI และกล้องซีซีทีวีมาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งเป็นการปรับปรุงพฤติกรรมของประชาชนในการใช้รถใช้ถนนด้วย
หลังจากนี้กรุงเทพมหานครจะเพิ่มกล้องซีซีทีวีอีก 100 จุด ภายใน 2 เดือน เพื่อให้ช่วยดูในการกระทำความผิด รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหาการจราจรในการปรับสัญญาไฟ ให้ตรงกับช่วงเวลาเร่งด่วนและช่วงเวลาที่ใช้รถใช้ถนนที่น้อยลง อย่างเช่นเสาร์ อาทิตย์ เพื่อให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดปัญหาการจราจรแออัด
สำหรับข้อมูลสถิติตัวเลขผู้กระทำผิดนอกจากช่วงปากซอยรัชดาภิเษก 36 หรือซอยเสือใหญ่อุทิศ มีสถิติจักรยานยนต์ขับขึ้นทางเท้า 2,921 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายจุดที่พบปัญหา เช่น ซอยเพชรเกษม 28 มี 1,338 ครั้ง หน้าโรงเรียนนิเวศน์วารินทร์ มี 619 ครั้ง
โดยเป็นข้อมูลตั้งแต่วันที่ 12-20 มิถุนายนที่ผ่านมา และสำหรับสถิติรถจักรยานยนต์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายในการวิ่งขึ้นทางเท้า จัดประเภทได้เป็นรถจักรยานยนต์ทั่วไป 1,884 ครั้ง วินมอเตอร์ไซค์ 592 ครั้ง
ภาพจาก กรุงเทพมหานคร