วิโรจน์ นำ 14 ส.ก.ก้าวไกลร่วมสภา กทม. หวังยกระดับเท่าสภาผู้แทนฯ เผยภารกิจแรกชำแหละงบ'66
ข่าววันนี้ 6 มิถุนายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย กทม.พรรคก้าวไกล เดินทางไปที่ศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรค จำนวน 14 คน
นายวิโรจน์ให้สัมภาษณ์ว่า ที่มาวันนี้เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย กทม.โดยมอบหมายให้ น.ส.ภัทรภรณ์ เอกรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ ทำหน้าที่โฆษกสภา กทม. ทั้งนี้ คณะทำงานในนามพรรคก้าวไกลมี 9 ข้อเสนอ ที่จะผลักดันการประชุมสภา กทม. ร่วมกับผู้ว่าฯกทม.ในการแก้ไขข้อบัญญัติ ประกอบด้วย 1.การตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.ถ่ายทอดสดการประชุมสภาเพื่อความโปร่งใส 3.การแก้ไขข้อบัญญัติที่เกี่ยวกับปัญหาที่ดินรกร้างและการจัดเก็บป้ายภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดยเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ ให้ความเป็นธรรมผู้ประกอบการรายย่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อให้ กทม.จัดเก็บรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
นายวิโรจน์กล่าวว่า 4.การจัดสรรงบประมาณใหม่ ทั้งเรื่องการจัดการขยะและระบายน้ำให้เพียงพอกับการดูแลประชาชน 5.การกระจายงบประมาณให้ประชาชนมีส่วนร่วม 6.พิจารณางบผูกพันที่ทำให้การก่อสร้างต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จเดินหน้าโครงการที่จำเป็น 7.การพิจารณาบรรจุครูพี่เลี้ยงศูนย์เด็กเล็ก เพื่อบรรจุให้เป็นลูกจ้างประจำให้ได้ 8.เปิดแผนร่างสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และ 9.การแก้ไขระบบบำบัดกลิ่นโรงไฟฟ้าอ่อนนุชที่มีปัญหามลพิษทางอากาศ
“ทั้ง 9 ข้อ มาจาก 12 นโยบายคนเท่ากัน ในเรื่องการแก้ไขการจัดเก็บรายได้มุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่หลีกเลี่ยงการจ่ายเงิน ซึ่งจะไม่กระทบกับประชาชนที่จ่ายอยู่แล้ว โดยใช้สภา กทม.ในการให้ความสำคัญการจัดสรรงบประมาณ เช่น การขุดลอกคูคลอง 1,980 คลอง แต่ทำได้หลักสิบเท่านั้น โดยต้องมารื้อและจัดสรรกันใหม่ สะท้อนว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับประชาชนที่อยู่ในซอยและหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม
“ก้าวไกลจะยกระบบสภา กทม.ให้เหมือนกับสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่ามีความจริงใจในการดูแลงบประมาณ ที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญและยึดโยงปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อเกลี่ยงบประมาณให้มีความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมามีการกระจุกงบ และตอบไม่ได้ว่าประชาชนได้ประโยชน์เท่าไร เช่น พื้นที่สีเขียวที่งบประมาณไปลงที่สวนลุมพินีเพียงอย่างเดียว” นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ย้ำว่า ส.ก.พรรคก้าวไกลเตรียมพร้อมวิเคราะห์งบในประเด็นสำคัญ และจะไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่จะแข่งขันการทำงานมากกว่า ประชาชนจะสามารถติดตามงบประมาณรายละเอียดในเขตตนเองได้