แจ้งข้อหาหนัก ญาติข้างบ้าน รัว16นัดดับผัวเมีย ปมกล้วยด่าง2แสน ปฏิเสธทำแผนหวั่นโดนรุม

วันที่ 4 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่ นายสมเจตน์ อายุ 35 ปี ชาว จ.นครปฐม อดีตผู้สมัคร สท. เทศบาลเมืองนครปฐม ก่อเหตุยิญาติของตัวเองที่อยู่บ้านติดกันคือ นายคุณากร อายุ 57 ปี และ นางสุกัลยา อายุ 48 ปี สามีภรรยาจนเสียชีวิต และ นายฆนากร อายุ 25 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีสาเหตุมาจากต้นกล้วยด่างราคา 200,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันเดียวกัน ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมปิดล้อมบ้านของนายสมเจตน์ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัว โดยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงยอมมอบตัว โดยเจ้าหน้าที่พาไปตรวจยึดอาวุธปืนและซองกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่ง ได้นำมาซ่อนในตู้เย็นภายในบ้านพักจากนั้นได้คุมตัวขึ้นรถไปสอบปากคำยัง สภ.เมืองนครปฐมท่ามกลางบรรดาญาติของผู้ตาย ที่มายืนล้อมอยู่หน้าบ้านต่างด่าทอสาปแช่ง

จากการสอบสวน นายสมเจตน์ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงทะเลาะกับนายฆนากร ผู้บาดเจ็บ และนายคุณากร ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นพี่เขย และน.ส.สุกัญญา พี่สาวต่างมารดา จากสาเหตุที่เคยก่อเหตุลักทรัพย์ต้นกล้วยแดงอินโด ของนายฆนากร ไปจากบ้านพักที่เกิดเหตุ ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ซึ่งคดีความเรื่องนี้มีกำหนดนัดหมายฟังคำพิพากษาวันที่ 22 ธใค. 2564 จากนั้นได้มีปากเสียงท้าทายกันเรื่อยมา และทะเลาะกันมาอย่างต่อเนื่อง

โดยก่อนเกิดได้นั่งดื่มเหล้าและอยู่ในอาการมึนเมาและเดินมาที่บ้านของผู้เสียชีวิต พร้อมกับพกอาวุธปืนติดมายิงผู้เสียชีวิต ส่วนนายฆนากรบาดเจ็บที่ต้นขาด้านขวา โดยยิงไป 16 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน โดยจะนำตัวไปฝากขังในวันพรุ่งนี้ที่ศาลจังหวัดนครปฐม ทั้งนี้นายสมเจตไม่ยินยอมที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์

ขณะที่ นายฆนากร เปิดเผยว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองนอนเล่นอยู่ในบ้าน รู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาในบ้าน เมื่อแหวกผ้าม่านดู ปรากฏว่าเห็นนายสมเจตน์เดินเข้ามาดูต้นกล้วยด่างที่บ้าน หลังจากนั้นผ่านไป 2 วัน ต้นกล้วยด่างหายไป พอต้นกล้วยด่างหายไป ได้มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต วันแรกนายสมเจตน์ ร้อนตัว ได้พูดจาข่มขู่ไว้ว่า จะเอาชีวิตทั้งบ้าน จากนั้นจึงได้แจ้งความไว้ จนนายสมเจตน์รู้จึงเก็บตัวไม่ค่อยออกมา

หลังจากนั้นนายสมเจตน์ได้นำต้นกล้วยด่างราคา 200,000 บาท ที่ขโมยไป นำมาคืน แต่แล้วก็ทำเป็นไม่พอใจและอยากจะมาขอเคลียร์ปัญหา แต่คนทางบ้านผมไม่อยากคุยด้วย เพราะต้องการจะดำเนินคดีกับนายสมเจตน์ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยทะเลาะกันมีเรื่องบาดหมางใจกันมาเป็น 10 ปีแล้ว เพราะพ่อของตนเคยถูกไม้ตีหัวจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางบ้านก็ทราบกันดีว่าเป็นฝีมือของนายสมเจตน์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะไปเอาผิด จึงทำให้ผิดใจกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว