รัฐบาลมุ่งมั่นสร้างความเท่าเทียมทางเพศ เชื่อส่งผลดีต่อมิติทางสังคม-เศรษฐกิจ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานเปิดตัว Business Inclusion Toolkit หรือ คู่มือเรียนรู้วิธีสร้างการมีส่วนร่วมสำหรับองค์กรและภาคธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (Sasin School of Management) และองค์กร Workplace Pride
นางสาวจิราพร กล่าวว่า แม้โลกปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าเรื่องสิทธิกลุ่ม LGBTIQ+ แล้วก็ตาม แต่ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศและการเลือกปฏิบัติในสังคมไทยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน และสังคม ซึ่งรัฐบาลไทย โดยเฉพาะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ดังจะเห็นได้จากการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งปัจจุบัน สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงท้วมท้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการของวุฒิสภา
นางสาวจิราพร กล่าวต่อว่า การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของกลุ่ม LGBTQI+ ในธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องความยุติธรรมทางสังคม แต่เป็นแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่ชาญฉลาด การศึกษาของ World Economic Forum และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization) ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกของบริษัทที่มีความหลากหลาย (diversity) และการมีส่วนร่วม (inclusion) มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงินมากถึง 120% และได้ยกตัวอย่างภาคธุรกิจของประเทศไทยหลายบริษัท ที่ได้ลงนามในข้อตกลงมาตรฐานการปฏิบัติของ UN Standards of Conduct for Business สำหรับกลุ่ม LGBTQI+ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าภาคธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มีความหลากหลายได้
“เชื่อว่ากระบวนการนี้จะนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมใหม่ เป็นสังคมที่เคารพความหลากหลาย มีสิทธิความเท่าเทียม รองรับการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ที่มีความครอบคลุมมากขึ้น หากร่วมมือกัน เราจะสามารถเปลี่ยนความฝันที่จะมีสังคมที่มีสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียม ให้กลายเป็นความจริงได้” นางสาวจิราพร กล่าว
ภาพจาก AFP