รีเซต

ผู้อ่านมติชน 54% อยากให้เปิดร้านตัดผม ห้าง ร้านอาหาร อีก 46%ยังไม่อยากให้เปิด

ผู้อ่านมติชน 54% อยากให้เปิดร้านตัดผม ห้าง ร้านอาหาร อีก 46%ยังไม่อยากให้เปิด
มติชน
14 เมษายน 2563 ( 20:00 )
206
1
ผู้อ่านมติชน 54% อยากให้เปิดร้านตัดผม ห้าง ร้านอาหาร อีก 46%ยังไม่อยากให้เปิด

ผู้อ่านมติชน 54% อยากให้เปิดร้านตัดผม ห้าง ร้านอาหาร อีก 46%ยังไม่อยากให้เปิด

โพลมติชน กรณีรัฐ-ภาคเอกชน ถกผ่อนคลายสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 หลังจากตัวเลขติดเชื้อเริ่มทรง และ เล็งให้ “ร้านตัดผม -ร้านเสริมสวย-ห้างสรรพสินค้า – ร้านอาหาร” กลับมาเปิดดำเนินการได้ แต่ย้ำต้องเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด รักษาระยะห่าง แต่สนามมวย สถานบันเทิง อาจต้องพักกิจการไปก่อน นั้น

มติชนออนไลน์ เชิญผู้อ่านร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ ท่านเห็นด้วย ให้เปิดร้านตัดผม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ในตอนนี้หรือไม่
1.เห็นด้วย
2.ไม่เห็นด้วย

ผลการเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น พบว่ามีผู้เข้าร่วมโหวต 6พันโหวต ในจำนวนนี้ 54% ระบุว่า เห็นด้วย และ 46% ระบุว่า ไม่เห็นด้วย

สำหรับความคิดเห็นที่น่าสนใจมีตัวอย่าง ต่อไปนี้

บางคนเค้าไม่ได้ร่ำรวยสายป่านยาว หยุดได้นาน อย่าเอามาตรฐานตัวเองวัดคนอื่น โอกาส ทางเลือกมีไม่เท่ากัน วาสนาแต่ละคนไม่มีทางเท่ากัน เห็นใจคนด้อยกว่าคือสำนึกของมนุษย์

น่าเป็นห่วงอยู่นะคะ ถ้าให้เปิด ถ้าติดเพิ่มมากขึ้นจะเอาอยู่มั้ยฮะ ขนาดแพทย์ พยาบาล ยังติดเลย แล้วคนธรรมดา อย่างเรา จะระวังตัวได้มากแค่ไหน รัฐบาล ควรมีการจัดการความเป็นอยู่ ของ ประชาชนให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่พอไม่อยากดูแลก็ให้ประชาชนออกมาเสี่ยงกันแบบนี้ ขนาดยอดผู้ติดเชื้อแค่นี้รัฐยังดูแลประชาชนไม่ได้ แล้วถ้าติดกันมากกว่านี้ จะไปปิดเมือง เคอร์ฟิว ตอนนั้นก็ไม่มีประโยชน์ แล้ว

ใจก็อยากให้เปิดนะสงสารคนทุกอาชีพ แต่โรคระบาด ไม่เลือกอาชีพไง ทำไงได้ ขอสงวนสิทธิ์โหวตให้ไม่ให้เปิดดีกว่าครับ

มันก็มีแค่สองทางเลือก จะติดเชื้อ (ซึ่งเราป้องกันตัวเองได้)กับ อดตาย คนสายป่านยาวอาจจะรอด แต่คนหาเช้ากินค่ำไม่รอด ขอเลือก ให้ได้ทำมาหากินปกติเถอะ

ให้เขาค้าขาย ทำมาหากินได้ปกติ ได้มีเงินเลี้ยงครอบครัวก็ยังดี ห้ามไม่ให้ทำมาหากินแบบนี้ ไม่ได้ตายเพราะโรค มีแต่จะอดตาย

จะได้เป็นบททดสอบว่าคนไทยมีวินัยในการป้องกันตัวเองจากโรคหรือไม่

ถ้ายังปิดอยู่ รบ.ต้องเยียวยาอย่างเร่งด่วนและเหมาะสมและเพียงพอ ไม่มากเกินหรือน้อยเกิน

ใครกลัวก็อย่าไปค่ะ คนมีความจำเป็นก็มีค่ะ คนไม่มีรายได้ คนตกงาน ตรงนี้ก็สำคัญค่ะ คนจะไม่เป็นโรคตายถ้าระวังป้องกันตัวเอง แต่จะอดตายเพราะไม่มีเงินค่ะ ใครก็ช่วยไม่ได้ เงิน 5000 จากรัฐ อย่าไปหวังเลยค่ะ ก็ให้ทำมาหากินกันดีกว่าในเมื่อไม่เยียวยาก่อต้องดูแลป้องกันตัวเองกันไปประเทศนี้คงต้องเปนแบบนี้ไม่งั้นคงอดตายกัน

มีการป้องกัน ดีๆก็เปิดได้ คนเขาใส่หน้ากากอนามัยทุกคน เข้าห้าง วัดอุณหภูมิ ใช้เจล อีกอย่างห้างสรรพสินค้าบ้านเรา ทางเดินมันกว้างๆ ไม่แออัด ชนิดที่ต้องเดินชน เบียดไหล่คงจะไม่มี

เมื่อโควิด19ยังจะอยู่อีกนานกว่าจะมีวัคซีน เดือนพฤษภาก็เปิดเถอะ ไม่มีใครอยากติดโรค และไม่มีใครอยากอดตายเช่นกัน

ให้คาดแมส มีเจลล้างมือ ทุกร้าน น่าจะบรรเทาได้บ้าง อย่างเขตไหนที่ไม่มีการระบาด น่าจะอนุโลมให้เปิด แต่ก็นะ รัฐบาลไม่อยากมีงานเยอะ ที่จะต้องทำงานหนักในการสำรวจพื้นที่

ไม่เปิดก็อดตายสิค่ะทุกคนต่างมีภาระจะมารอให้รัฐบาลมาช่วยแค่เงิน 5000 ยังยากเลยค่ะ…ทำเหมือนเราเป็นขอทานไปได้

ถ้ารัฐบาล ไม่มีมาตรการ มาช่วยก็เปิดไปเถอะ ครับ

เข้าใจว่ากลัว..แต่บางคนเขาจำเป็นไม่มีรายได้เงินช่วยเหลือไม่ถึง..ชีวิตมีแต่รายจ่าย..แต่ควรมีการป้องกันที่เข้มกว่าปกติ

สำหรับคนไทย ..อย่าเปิดเลยรอให้ดีขึ้นกว่านี้ ถ้าเปิดปุ๊ปได้เห็นคนไทยออกมาวิ่งวนและแพร่เชื้ออีกรอบ

ไประดมทุนมาช่วยคนที่เค้าไม่มีเงินไม่มีรายได้แล้วก็รีบๆควบคุมโรคให้อยู่ก่อนจะดีมั้ย ไม่งั้นมันก็ติดกันไปกันมาไม่หายสักที

ร้านนอกห้างเปิดไปเถอะ ร้านในห้าง ควรรอ …

อันไหนที่สร้างเศรษฐกิจเองได้ และไม่สร้างปัญหากะสังคม ปล่อย ๆไปมั่ง ไม่ใช่มาจับมันตราสังอย่างนี้

บางจังหวัดก็ไม่ได้ปิดนะ เช่น ที่บ้านผม ให้เขาเปิดเถอะ แล้ววางมาตรการเข้มเร่งความสะอาด หากเปิด ให้เขาได้มีเงินเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัวบ้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง