ทำไมโรคมะเร็งไส้ติ่งถึงพบในคนรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่ามะเร็งไส้ติ่งจะเป็นโรคที่พบได้ยากเมื่อเทียบกับมะเร็งในที่อื่นๆ แต่การศึกษาล่าสุดพบว่าอัตราการเกิดโรคนี้กำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งนับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

ข้อมูลจากฐานข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐฯ พบอัตาการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในกลุ่ม Gen X และเพิ่มขึ้น 4 เท่าในกลุ่มมิลเลนเนียล หรือ เจน Y

ดร.แอนเดรียนา โฮโลวาทิจ หัวหน้าทีมวิจัยและผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งไส้ติ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี 

เปรียบเทียบกับมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่พบในผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 50 ปีเพียง 1 ใน 8 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มะเร็งไส้ติ่งยังคงเป็นโรคที่หายากมาก ตามข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบได้ในอัตรา 1-2 รายต่อประชากร 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาต่อปี

ในการศึกษาครั้งนี้ ดร.โฮโลวาทิจ ใช้ข้อมูลจากทะเบียนมะเร็งระดับชาติที่เป็นตัวแทนของประชากรสหรัฐฯ ประมาณ 45.9% พบ 5000 คนในช่วง 44 ปี

เมื่อรวมสัดส่วนผู้ป่วยจำนวนมากที่ได้รับการวินิจฉัย มีอายุระหว่าง 1-49 ปี สอดคล้องกับการศึกษาในครั้งนี้พอดิบพอดี

สิ่งสำคัญคือเราต้องหาสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังสถิติเหล่านี้ เพื่อที่จะหันกลับแนวโน้มนี้และลดภาระของโรค" ดร.โฮโลวาทิจกล่าว

การศึกษาใหม่นี้ยืนยันเพิ่มเติมว่ามีแนวโน้มที่ผู้ป่วยจากรุ่นใหม่ๆ จะเป็นมะเร็งระบบทางเดินอาหารในวัยที่อ่อนลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

สาเหตุที่สำคัญนอกจากพฤติกรรมการรับประทาน นักวิจัยชี้ว่า น่าจะมาจากการสัมผัสกับอาหารและน้ำที่มีการปนเปื้อนของไมโครพลาสติก แต่ก็ยังลำบากที่จะระบุได้ชัดเจนว่าเป็นสาเหตุหนึ่งหรืออีกสาเหตุหนึ่ง ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น คือ น่าจะมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของโรคนี้ หลังจากปี 1945 เป็นต้นมา

การอุดตันในไส้ติ่งสามารถนำไปสู่การติดเชื้อและการอักเสบที่เรียกว่าไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งต้องได้รับการรักษาฉุกเฉิน

ต่างจากมะเร็งอื่นๆ ในระบบทางเดินอาหาร มะเร็งไส้ติ่งไม่ง่ายที่จะค้นพบเพราะไม่ง่ายที่จะเห็นในการสแกนช่องท้อง และมักจะไม่ถูกตรวจพบด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ 

ข้อมูลชี้ว่า ผู้ป่วยราว 95% ตรวจไม่พบมะเร็งจนกระทั่งมีอาการของโรคไส้ติ่งอักเสบ

หรือ นำชิ้นไส้ติ่งที่ตัดออกแล้ว ส่งไปตรวจสอบโดยแพทย์พยาธิวิทยา 

แน่นอนว่ากว่าจะถึงตอนนั้น มะเร็งก็ลุกลามอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว

ยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มักละเลยการตรวจสุขภาพ หรือคิดว่าตัวเองยังพอแข็งแรงไม่จำเป็นต้องตรวจโรค อันตรายของมะเร็งไส้ติ่งยิ่งน่ากลัวมากขึ้น 

แพทย์แนะนำว่า หากมีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย ก็ควรรีบไปพบแพทย์