รบ.แจงยอดคาดการณ์นำเข้าวัคซีน ด้าน ซิโนแวค ยังจ่อคิว มาอีก 12 ล้านโดส
ศบค.เผยรัฐบาลเตรียมนำเข้าวัคซีน ในเดือน ก.ย.นี้ เพิ่มอีก 15 ล้านโดส แบ่งเป็นซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสร้าฯ 7 ล้านโดส ไฟเซอร์อีก 2 ล้าน ส่วนเดือน ต.ค.-พ.ย. เล็งนำเข้า 17 ล้านโดส เป็นซิโนแวค 6 ล้าน แอสตร้า 7 ล้าน และจะได้ไฟเซอร์เพิ่มคาดราวๆ 10 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดผยถึงป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส ภายในปี 256 ว่า จากการกำหนดเป้าหมายดังกล่าว ที่คิดจากอัตราส่วนประชาชน 50 ล้านคน หากจะไปให้ถึงเป้าหมายได้ต้องมีอัตราการฉีดอยู่ที่ 15 ล้านโดส/เดือน และต้องฉีดให้ได้ 5 แสนโดส/วัน ซึ่งอัตราการฉีดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถฉีดได้เกินกว่า 5 แสนโดส ถือว่ายัง อยู่ในแผนการบริหารจัดการ แต่สิ่งสำคัญการที่จะฉีดได้ตามแผนต้องมีการจัดหาวัคซีนให้ทันกับการฉีดด้วย
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ในเดือนกันยายนนี้ ถือเป็นเดือนที่สำคัญ เพราะจากการเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ ผ่านมานั้น หลายคนจะครบกำหนดต้องฉีดเข็ม 2 ในเดือนกันยายนนี้ แต่ต้องย้อนกลับไปดูที่การนำเข้าวัคซีนในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ประมาณ 13.8 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 6.5 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 5.8 ล้านโดส ไฟเซอร์ที่ได้รับจากการบริจาค 1.5 ล้านโดส และชิโนฟาร์ม 1 ล้านโดส ซึ่งในเดือนสิงหาคม ยังสามารถฉีดได้ตามแผนวันละ 5 แสนโดสขึ้นไป
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ส่วนในเดือนกันยายนนี้ คาดว่าจะมีวัคซีนเข้ามาในไทยรวมแล้ว ประมาณ 15 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 7 ล้านโดส ไฟเซอร์จะเข้าเพิ่ม 2 ล้านโดส ส่วนในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2564 จะมีการจัดสรรวัคซีนอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 7 ล้านโดส ไฟเซอร์จะเข้าเพิ่มในเดือนตุลาคม 8 ล้านโดส ส่วนในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2564 ไฟเซอร์จะเข้ามาเดือนละ 10 ล้านโดส
“จากการที่รัฐบาลเจรจากับแอสตร้าเซนเนก้าในส่วนของผู้ผลิต สะท้อนให้เห็นสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น แอสตร้าเซนเนก้าได้ให้คำมั่นว่าตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป จะจัดสรรวัคซีนให้ลงพื้นที่ประเทศไทย อย่างน้อย 7 ล้านโดส/เดือน ถ้ามีกำลังการผลิตที่มากขึ้น ก็จะจัดสรรวัคซีนให้กับไทยมากขึ้นต่อไป นอกจากนี้ ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อม และเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ ทั้งในการจัดหาวัคซีน การเตรียมฉีดวัคซีน รวมถึงเรื่องการขนส่งยืนยันว่าเพียงพอแน่นอน” พญ.อภิสมัย กล่าว