หนุ่มโหด ฆ่าตัดหัว เพื่อนรัก ก่อนหิ้วไปโยนทิ้งหน้าบ้าน เล่าปมลงมือเหี้ยม

หนุ่มโหด ฆ่าตัดหัว เพื่อนรักคาบ้านพักในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนหิ้วไปโยนทิ้งหน้าบ้าน ตำรวจรวบทันควัน เล่าปมลงมือเหี้ยม

วันที่ 25 ก.ย. ร.ต.อ.อาทร ทองนาค รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ขนอม เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุฆ่าตัดคอที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.ขนอม, แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้ตึ้ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าห้องแถว ภายในบ้านพบศพ นายโก ชาวเมียนมา ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านที่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ สภาพนอนเสียชีวิตจมกองเลือด พบส่วนร่างถูกตัดศีรษะ ที่รั้วหน้าบ้านห่างกันประมาณ 10 เมตร พบส่วนศีรษะของผู้ตายวางอยู่ ใกล้กันมีมีดพร้าเปื้อนเลือด

เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าห้องแถว ภายในบ้านพบศพผู้ตายทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายโก ชาวเมียนมา พักอยู่บ้านเช่าเลขที่ 2/9 หมู่ 1 ต.ควนทอง อ.ขนอม ซึ่งอยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดที่แดงฉานทั่วบริเวณ พบส่วนร่างถูกตัดศีรษะอยู่ในสภาพน่าสยดสยองแก่ผู้พบเห็น ที่รั้วหน้าบ้านห่างกันประมาณ 10 เมตรพบส่วนศีรษะผู้ตายวางอยู่ใกล้พบมีดพร้าเปื้อนเลือด

ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายอัง ชาวเมียนมา ผู้ก่อเหตุได้ภายในบ้านที่เกิดเหตุเหตุ จึงนำตัวมาสอบปากคำ โดย นายอัง ให้การว่า ตนกับนายโกทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.ขนอม ด้วยกัน และเป็นเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน

ก่อนเกิดเหตุตนได้ชักชวนนายโกให้มานั่งพูดคุยกันที่บ้าน แล้วได้ต้มน้ำใบพืชกระท่อมดื่มด้วยกัน ปรากฏว่าเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง มีการชกต่อยกันอย่างอุตลุด ผมสู้ไม่ได้จึงใช้มีดพร้าที่วางอยู่ใกล้มือฟันคอนายโกเต็มแรงหลายครั้งจนคอขาด จากนั้น ได้หิ้วศีรษะไปโยนทิ้งที่หน้าบ้าน" นายอัง กล่าว

นายอัง กล่าวต่อว่า กระทั่ง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและจับกุมตนได้ที่บ้านเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งขอรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่านายโกจริง เพราะโกรธแค้นที่มาหาเรื่องแล้วชวนทะเลาะทั้ง ๆ ที่เป็นเพื่อนกัน

ด้าน พ.ต.อ.เทเวศร์ กล่าวว่า สาเหตุมาจากโกรธแค้นส่วนตัว ซึ่งนายโกกับนายอัง แม้จะเป็นเพื่อนกัน อยู่บ้านติดกัน แต่มักจะทะเลาะกันบ่อยเมื่อดื่มสุราของมึนเมา อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายอังไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป