‘สุพัฒนพงษ์’ ฟุ้งปี’ 65 จีดีพีโตได้ 5% - ลั่นรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาหนี้สินที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ทำเอาไว้ หนี้สินที่รัฐบาลนี้ไม่ได้ก่อ
ข่าววันนี้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้โจทย์ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเปลี่ยนไป หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในประเทศไทยและทั่วโลก โดยรัฐบาลยังมีเป้าหมายขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจปี 2565 ให้เพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากการบริโภคภาคประชาชน ที่รัฐบาลใส่มาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการคนละครึ่ง มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน และการใส่เงินในกระเป๋าประชาชน ยังมีเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะเร่งพัฒนารถไฟรางคู่ให้สามารถไปเชื่อมรถไฟในสปป.ลาว ภายใน 2 ปีครึ่งนับจากนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามพยุงเศรษฐกิจ และฟื้นฟูเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เขียนไว้ พยายามให้คนตัวเล็กที่สุด ให้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) สามารถเข้าถึงสิ่งที่จำเป็นพื้นฐาน ขณะนี้รัฐบาลช่วยเหลือคนเหล่านี้ได้มากพอสมควร แต่ที่ไม่เห็นความหวืดหวาเศรษฐกิจไม่ได้โตอย่างที่หลายคนต้องการ แต่เศรษฐกิจเติบโตได้เท่ากับเมื่อ 2 ปีก่อนที่โควิด-19 จะระบาด ถือว่าดีแล้ว เพราะงานอีกฟากหนึ่งคือ รัฐบาลก็ยังต้องเร่งแก้ปัญหาหนี้สินที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ทำเอาไว้ หนี้สินที่รัฐบาลนี้ไม่ได้ก่อ
“จากโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป หลังการระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศไทย ขับเคลื่อนไปได้อย่างช้าๆ เพราะประเทศไทยมันกว้าง รัฐบาลที่ผ่านๆ มา พัฒนาเป็นแนวนอน จึงทำให้การเคลื่อนตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างช้าๆ แต่รัฐบาลยังเดินหน้าขับเคลื่อนโดยไม่ต้องปฏิรูปเศรษฐกิจใหม่ ยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ให้เป็นรูปธรรมจีดีพีของประเทศก็จะกลับมาโตได้ 5% เท่ากับช่วงที่ก่อนโควิดจะระบาดอีกครั้ง”
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ความเชื่อมั่นในการลงทุนของไทยเกิดขึ้นแล้วดูได้จากตัวเลขการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีการเติบโตขึ้นมาก แต่การขอรับการส่งเสริมบีโอไอ มันไม่ได้แสดงออกให้เห็นในตัวเลขเศรษฐกิจโดยทันที มันต้องใช้เวลาสักพัก กว่าจะมีการลงทุนจริง กว่าตัวเลขเหล่านี้จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวม แต่เมื่อมีตัวเลขขอรับการส่งเสริมบีโอไอที่เพิ่มขึ้น ย่อมแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยยังได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาพรวมของประเทศค่อยเป็นค่อยไป เพียงแต่คนในประเทศเกิดความเชื่อมั่น นำเงินออมออกมาใช้จ่าย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาครัฐก็เดินหน้า ขับเคลื่อนการลงทุนในดครงสร้างพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา ประชาชนคนไทย ย่อมได้รับตามสิทธิที่พื้นฐานที่ควรได้ ดังนั้นหากพื้นที่ใดหรือคนไหนมีปัญหาเข้าไม่ถึง น้ำ ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต ก็ควรยกมือ เรียกร้องหรือ ตะโกนมาให้รัฐบาลได้ยิน รัฐบาลพร้อมดำเนินการให้คนไทยทุกคนเข้าถึงสิ่งเหล่านี้
“การเติบโตของเศรษฐกิจไทย จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน ประชาชนต้องเรียกร้อง สิทธิตัวเอง มีปัญหาตรงไหน ต้องเรียกร้องสิทธิพื้นฐาน อินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึงต้องเรียกร้อง ให้ดีอีได้ยิน ขณะนี้ประชาชนคนไทยไม่รู้สิทธิและหน้าที่ของตัวเอง ทำให้ประเทศ มันพัฒนาได้ไม่ทุกจุด ส่วนไฟฟ้ายืนยันคนไทยทุกคนในประเทศไทยเข้าถึง 100% มาถึงตอนนี้ยอมรับไม่มีที่ไหนเฟอร์เฟ็กต์ สมบูรณ์แบบทุกอย่าง แต่รัฐบาลนี้พยายามที่จะพัฒนาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส ให้คนไทยเข้าถึงเครื่องมือของการพัฒนา รัฐบาลคิดไว้หมดแล้วอยู่ในแผนงบประมาณ ประเทศไทยจะเคลื่อนตัวไปด้วยกันได้”