รีเซต

เปิดคำพิพากษา จำคุก “เทพไท" คดีทุจริตเลือกตั้ง

เปิดคำพิพากษา จำคุก  “เทพไท" คดีทุจริตเลือกตั้ง
TNN ช่อง16
28 สิงหาคม 2563 ( 12:33 )
428
เปิดคำพิพากษา จำคุก  “เทพไท" คดีทุจริตเลือกตั้ง

ศาลนครศรีธรรมราชพิพากษาจำคุก “เทพไท เสนพงศ์” ร่วมน้องชาย “มาโนช เสนพงศ์”ทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ. เตรียมร้อง กกต.ส่งคุณสมบัติ สส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเชื่อขาดคุณสมบัติเป็น สส.แล้วนับแต่ต้องคำพิพากษา-อัยการจ่อฟ้องซ้ำอีกคดีหลังยืดเยื้อร่วม 6 ปี


ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เม่าอเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมานายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช น้องชาย ซึ่งตำเป็นจำเลยในคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายกอบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายของนายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ ในฐานะผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยตัวเอง โดยศาลนครศรีธรรมราช ได้นัดฟังคำพิพากษา โดยพบว่าโจทก์และจำเลยได้เดินทางมาศาลท โดยมีนายนิพิษฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาให้กำลังใจทั้งนายเทพไท และนายพิชัย ซึ่งรู้จักสนิททั้งสองฝ่ายพร้อมทั้งเข้ารับฟังคำพิพากษาด้วย


โดยภายหลังจากฟังคำพิพากษาโดยสรุปศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำคุกนายโมช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 3 ปี ตัดสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี โดยศาลได้พิจารณาปราณีโทษจำให้เหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา หลังจากนั้นตำรวจศาลได้สวมกุญแจมือ ลำเลยทั้งสองส่งเข้าห้องควบคุมตัวตัวใต้ถุนศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ทันทีขณะที่ทนายจำเลยได้เตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวเพื่อยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์ภายในเวลา 30 วัน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบผลว่าศาลได้พิจารณาให้ประกันตัวจำเลยทั้งสองหรือไม่


ขณะที่นายพิชัย บุณยเกียรติ ในฐานะโจทก์ เปิดเผยว่าต้องขอบคุณศาลที่ได้ให้ความชัดเจนในคำพิพากษาที่ยืนยันยันว่าพยานหลักฐานโจทก์มีความมั่นคงแน่นหนา พยานจำเลยรับฟังไม่ได้ ขั้นตอนหลังจากนี้จะประสานกับ กกต.เพื่อดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย 


ในเชิงข้อกฎหมายนั้นพ้นจากตำแหน่งโดยทันทีอยู่แล้ว แต่ด้วยขั้นตอนระเบียบปฏิบัตินั้น กกต.จะได้พิจารณายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามขั้นตอน เพื่อให้ศาลสั่งให้พ้นสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพราะเป็นผู้ขาดคุณสมบัติแล้วอันเนื่องจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10  ปีนับแต่ต้องคำพิพากษาในวันนี้


สำหรับคดีนี้ กกต.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อราว 6 ปีก่อนแต่กระบวนการมีความล่าช้าในระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นพนักงานอัยการ และชั้นพนักงานอัยการสูงสุด ท้ายที่สุดนายพิชัย บุณญเกียรติ ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์เห็นว่ามีความล่าช้าจนเกินสมควรก่อให้เกิดความเสียหายแก่รูปคดีจึงตัดสินยื่นฟ้องด้วยตัวเองในขณะที่สำนวนคดียังอยู่ที่อัยการสูงสุด จนศาลได้มีคำพิพากษา และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมาอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องในคดีเดียวกันนี้ โดยจำต้องนำตัวผู้จำเลยทั้งสองมาฟ้องซ้ำอีกครั้งตามขั้นซึ่งขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป.




เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com 
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live 
twitter : TNNONLINE 
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE 
Instagram : TNN_ONLINE 
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง