รีเซต

ชัดแล้ว! "คนละครึ่ง" คาดเงินสะพัด เอกชนหวังเป็นยาแรงกระตุ้น

ชัดแล้ว! "คนละครึ่ง" คาดเงินสะพัด เอกชนหวังเป็นยาแรงกระตุ้น
TNN ช่อง16
2 ตุลาคม 2568 ( 11:35 )
8

โครงการ คนละครึ่ง ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ จะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า นี้แล้ว และจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ ภายในเดือนตุลาคมนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม จะเปิดให้ลงทะเบียนร้านค้า ซึ่งครั้งนี้จะมีการเพิ่มกลุ่มร้านค้านิติบุคคลที่เป็นเอสเอ็มอีรายย่อยด้วย จากนั้น ระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคม จะเป็นรอบการลงทะเบียนของประชาชนทั่วไป กำหนดจำนวน 20 ล้านสิทธิ์ แบ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคน และผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจำนวน 11 ล้านคนโดยกลุ่มที่เคยลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุด สามารถเข้าไปกดยืนยันตัวตนได้เลย ส่วนที่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน หรือเคยร่วมโครงการครั้งก่อนหน้า (ก่อนเฟส 5) จะต้องลงทะเบียนใหม่ตามวันที่กำหนดและในวันที่ 29 ตุลาคม จะเริ่มใช้จ่าย โดยรัฐสมทบให้ 200 บาทต่อวัน หากใช้ไม่หมดในแต่ละวันสามารถใช้ในวันถัดไปได้ โดยมีระยะเวลาในการใช้จ่ายภายใน 2 เดือน

โดยโครงการ คนละครึ่งพลัส ในรอบนี้ จะเป็นรูปแบบเดิมที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว คือลงทะเบียนและใช้สิทธิผ่านแอป เป๋าตัง แต่สิ่งที่ต่างจากเดิมคือ เงินสมทบ โดยจะเพิ่มเงินสมทบจากก่อนหน้า 150 บาทต่อวัน เป็น 200 บาทต่อวัน รวมถึงเพิ่มให้นิติบุคคลขนาดเล็ก (หมายถึงร้านค้าผู้ประกอบการ) สามารถเข้าร่วมโครงการได้ด้วย และ พลัส สำหรับกลุ่มคนที่ยื่นภาษีในระบบและร่วมโครงการฯ จะได้วงเงินสบทบมากกว่า เป็นวงเงิน 2,400 บาท ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จะได้วงเงินสมทบจำนวน 2,000 บาท 

ด้านภาคเอกชน มองว่าการใช้มาตรการ คนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงปลายปีนี้ ควรจะใช้ยาแรง เพื่ออัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวมาอย่างยาวนาน

โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เสนอควรขยายผลการใช้มาตรการให้ครอบคลุมทุกประเภทร้านค้า เพื่อเพิ่มทางเลือก และสร้างความสะดวกในการจับจ่ายของประชาชนได้ทุกที่ที่ต้องการ โดยไม่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อน

ขณะที่ผู้ประกอบการเอกชนหลายราย มองว่าควรขยายประโยชน์ให้ครอบคลุมผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ซึ่งโครงการจากก่อนหน้านี้ เอสเอ็มอีกว่า 900,000 ราย ถูกกันสิทธิออกจากระบบ ทั้งที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย แต่หากมาตรการนี้ทั่วถึง ก็เชื่อว่าจะสร้างแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก

ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร คุณ ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า คนละครึ่งพลัส เปิดโอกาสให้ธุรกิจร้านอาหาร ที่เป็นนิติบุคคลได้เข้าร่วมโครงการด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการที่ต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวมายาวนานและการที่ภาครัฐ ดูแลผู้ประกอบการที่ทำดี เชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจให้รายอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบภาษี เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น

ที่ผ่านมาธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาเศรษฐกิจ โดยยอดขายลดลงไปมากกว่าร้อยละ 50-60 มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่ยังอยู่ดีเพราะมีสายป่าน(เงินทุน) ที่เพียงพอ แต่อีกร้อยละ 95 เผชิญกับความยากลำบาก แต่ก็ต้องประคับประคองดูแลธุรกิจ และดูแลแรงงานในระบบร้านอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายมองว่า สถานการณ์หนักยิ่งกว่าช่วงวิกฤต โควิด ด้วยซ้ำ โดยบางส่วนที่อยู่ไม่ไหวก็ต้องปิดตัวไป

ดังนั้น สิ่งที่กลุ่มร้านอาหารต้องการก็คือ ยอดขาย และสำหรับ โครงการคนละครึ่ง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยเป็นเท่าตัวจากเม็ดเงินของรัฐบาลที่สมทบเข้ามา และเชื่อว่าจะกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าประเภทอื่นๆ ของประชาชนได้เพิ่มขึ้นอีก นั่นหมายถึงว่า มูลค่าการใช้จ่ายก็อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่าได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง