เตรียมทุ่มทุนใช้หุ่นยนต์ Spot ตามหาบิทคอยน์มูลค่ากว่า 6,450 ล้านบาท
เจมส์ โฮเวลล์ (James Howells) ชายชาวอังกฤษผู้ที่อ้างว่าตัวเองเฉียดรวยกลายเป็นมหาเศรษฐีหลังจากมีจำนวนบิทคอยน์ (Bitcoin) เก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์ของตัวเองกว่า 8,000 BTC ในปี 2013 แต่เขากลับนำมันไปทิ้งในกองขยะโดยไม่ได้ตั้งใจและเมื่อทราบมูลค่าของ Bitcoin ที่สูงขึ้นในหลายปีต่อมาเขาจึงพยายามออกตามหามันในกองขยะขนาด 110,000 ตัน
ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี ที่เหรียญบิทคอยน์ (Bitcoin) จำนวน 8,000 BTC หายไปเขาพยายามค้นหามันทุกแห่งและล่าสุดในปี 2022 เขาได้ออกมาเปิดเผยแผนการจัดระดมทุนมูลค่ากว่า 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 400 ล้านบาท เพื่อตามหาบิทคอยน์ (Bitcoin)ในฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์อีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เขาต้องการใช้ตัวช่วยพิเศษนั่นคือ หุ่นยนต์สุนัข Spot เวอร์ชันปี 2020 จากบริษัท Boston Dynamics จำนวน 2 ตัว ในราคา 74,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.7 ล้านบาท ซึ่งหุ่นยนต์รุ่นดังกล่าวจะมีการติดตั้งเทคโนโลยีทันสมัยในการมองหาวัตถุที่มนุษย์ไม่สามารถมองหาได้ด้วยตาเปล่าทำงานร่วมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI)
โดยเขาจะตั้งชื่อหุ่นยนต์ตัวแรกว่าซาโตชิ (Satoshi) ตามชื่อของผู้ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nagamoto) ผู้เป็นแกนนำสำคัญในการพัฒนาบิทคอยน์ (Bitcoin) และหุ่นยนต์อีกตัวว่าฮัล (Hal) ตามชื่อของฮัล ฟินนีย์ (Hal Finney) ชายคนแรกที่ทำธุรกรรมโอนย้ายบิทคอยน์ (Bitcoin) หุ่นยนต์จะทำหน้าที่เป็นยามรักษาการและค้นหาไปในตัวเพื่อป้องกันบุคคลอื่นเข้ามาขโมยชิ้นส่วนฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์ที่มีบิทคอยน์ (Bitcoin) อยู่ภายใน
อย่างไรก็ตามแผนการค้นหาบิทคอยน์ (Bitcoin) ในกองขยะขนาด 110,000 ตัน นั้นดูเหมือนไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เนื่องจากต้องขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐบาล รวมไปถึงกองขยะที่มีขนาดใหญ่ แม้ว่าเจมส์ โฮเวลล์ (James Howells) จะยืนยันว่าสามารถจัดการสภาพแวดล้อมให้กลับคืนมาตามเดิมได้หลังจากค้นหาประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าถึงแม้จะค้นพบฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์แต่กระบวนการกู้คืนข้อมูลนั้นยากมากและมีโอกาสกู้ข้อมูลสำเร็จเพียงน้อยนิด
ที่มาของข้อมูล businessinsider.com
ที่มาของรูปภาพ Boston Dynamics