"หมอมนูญ" เปิดผลศึกษาวัคซีน ขอให้มั่นใจในประสิทธิภาพ"ซิโนแวค"
วันนี้( 18 มิ.ย.64) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ว่า
"สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration - FDA ของสหรัฐอเมริกา) และกระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้ตรวจระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดี
ภายหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
ค่าของแอนติบอดีไม่ได้บอกถึงความสามารถในการป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรค ถ้าค่าที่วัดออกมาต่ำ อาจสร้างความไม่สบายใจ นอกจากนี้บางคนอ่านข่าวแล้ว ไม่อยากได้วัคซีนชนิดนั้น
ในประเทศไทยมีห้องปฏิบัติการวิจัยในหลายมหาวิทยาลัย เจาะเลือดตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันแอนติบอดีในเลือดคนที่ได้รับวัคซีนมาแล้ว หลายวิธี ได้ผลรวดเร็ว หน่วยที่วัดออกมาก็แตกต่างกัน เปรียบเทียบกันไม่ได้
ต่างจากการศึกษาวิจัยประสิทธิภาพของวัคซีนในการทดลองขั้นที่ 1/2 นักวิจัยเจาะเลือดคนหลังฉีดวัคซีน นำเลือดนั้นไปทดลองกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ตัวเป็นๆ ว่าแอนติบอดีในเลือดสามารถยับยั้งการติดเชื้อ
และทำลายเซลล์ Vero cell ที่ใช้ในการเพาะเลี้ยง วิธีนี้ยุ่งยาก ใช้เวลานาน ต้องทำในห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อชีวนิรภัยระดับสูง
มีการศึกษายืนยันคนที่ได้รับวัคซีนทั้งซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตร้าเซเนก้า และวัคซีนอื่นๆที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก หลังฉีดตรวจพบแอนติบอดีสามารถยับยั้งการติดเชื้อทำลายเซลล์ที่ใช้
ในการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ และในชีวิตจริงสามารถลดการป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต เพราะฉะนั้นคนไทยไม่จำเป็นต้องเสียเงินเป็นหลักพันบาทไปเจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกันแอนติบอดี หลังฉีดวัคซีน
ผมได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 โดส ได้รับการทาบทามจากโรงพยาบาลวิชัยยุทธให้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยเนื่องจากอยู่ในกลุ่มคนสูงอายุ ตรวจเลือดหาแอนติบอดีต่อโปรตีนส่วนที่เป็นปุ่มหนามของไวรัสโควิด-19
เปรียบเทียบกับบุคลากรทางการแพทย์ที่อายุน้อย ค่าของแอนติบอดี 6 สัปดาห์หลังจากโดสที่ 2 ของผมสูง 1,752 AU/ml ไม่ต่างจากค่าเฉลี่ย 1,619 AU/ml ของบุคลากรทางการแพทย์ของรพ.ศิริราช ซึ่งส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 60 ปี
ปัจจุบันวัคซีนซิโนแวคสามารถให้คนอายุ 18 ปีขึ้นไปและผู้สูงอายุ ขอให้มั่นใจในประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค"