ผวจ.นราธิวาส สั่งการด่วนที่สุด ให้อำเภอชายแดนปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19
เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนราธิวาส/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนราธิวาส ออกหนังสือด่วนที่สุดเรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่อำเภอชายแดน โดยอ้างถึง ข้อสั่งการผ่านระบบวีดิทัศน์ของพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้จังหวัดบูรณาการและประสานงานทุกหน่วย ในการดำเนินมาตรการป้องกัน สกัดกั้น ตามแนวชายแดนและดำเนินมาตรการเชิงรุกอย่างเข้มงวดสูงสุด
ดังนั้นเพื่อการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จังหวัดนราธิวาสจึงขอให้ทุกอำเภอประสานและบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกัน ระหว่างฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เพื่อเฝ้าระวังป้องกัน สกัดกั้น มิให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด
โดยให้อำเภอแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งแจ้งเบาะแสผู้หลบหนีเข้าเมือง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนำพา รวมถึงผู้ให้ที่พักพิงกับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองหากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ได้กำชับและกวดขันไม่ให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกรูปแบบ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาดทุกราย
อีกทั้งขอให้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้บุคคลสัญชาติไทย ที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ ขอให้ติดต่อสถานทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยในประเทศที่พำนัก เพื่อเดินทางกลับผ่านช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมายหากมีการฝ่าฝืนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ได้ให้อำเภอประสานโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลของรัฐในพื้นที่ เพื่อจัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือ อุปกรณ์ ยาเวชภัณฑ์ รวมทั้งพิจารณาสถานที่ เพื่อจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามให้พร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รอบใหม่และสามารถปฏิบัติได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ
วันเดียวกัน นายมยุรี เจะโซ๊ะ สาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า จากการติดตามผู้โดยสารที่เดินทางโดยสารมากับรถไฟ ขบวนรถเร็วที่ 171 ชั้น 3 คันที่6 ออกจากหัวลำโพงวันที่8 ม.ค.64 ซึ่งเป็นคันเดียวกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และได้มีการประสานผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้ช่วยเร่งรัดติดตามผู้โดยสารทั้งหมดให้มารายงานตัว ขณะนี้ได้มีบุคคลจากอำเภอแว้งเข้ารายงานตัวเพียง 4 รายเท่านั้น
ทั้งนี้จึงอยากขอความร่วมมือทุกคนที่โดยสารมากับขบวน คันที่ และวันดังกล่าว รีบมารายงานตัวเพื่อเข้าคัดกรองความเสี่ยงและติดตามอาการ โดยยืนยันว่าบุคคลกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องมีการพิจารณาความเสี่ยง หรืออาจจำเป็นต้องกักตัวและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอด14วัน เนื่องจากอยู่ร่วมกันในขบวนเดียวกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน ซึ่งไม่เพียงเป็นการตรวจคัดกรองเพื่อตัวผู้โดยสารเอง แต่เป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงที่จะนำเชื้อไปติดต่อกับบุคคลในครอบครัว และสังคมด้วย โดยสามารถโทรประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอของตนเองเพื่อเข้ารายงานตัวได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ