รีเซต

มทร.อีสาน เสียใจ เด็กปี 1 เสียชีวิตหลังรับน้องโหด ยันขัดนโยบายมหา'ลัย เยียวยาครอบครัวทุกอย่าง

มทร.อีสาน เสียใจ เด็กปี 1 เสียชีวิตหลังรับน้องโหด ยันขัดนโยบายมหา'ลัย เยียวยาครอบครัวทุกอย่าง
มติชน
15 มีนาคม 2565 ( 12:20 )
164
มทร.อีสาน เสียใจ เด็กปี 1 เสียชีวิตหลังรับน้องโหด ยันขัดนโยบายมหา'ลัย เยียวยาครอบครัวทุกอย่าง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 มีนาคม ที่คลินิกเด็กและโรคภูมิแพ้ แพทย์หญิงสุนทรี เอื้อปกรณ์ ถนนกุดั่น เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มทร.อีสาน นครราชสีมา นำนักศึกษารุ่นพี่ชั้น ปวส.ช่างกลโรงงาน จำนวน 12 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ปรากฏผลเป็นลบทุกราย จากนั้นนำไปพบพนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อ.เมือง เพื่อดำเนินการตามกระบวนการเป็นผู้ถูกกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต

 

ขณะที่ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวว่า ขอเรียนว่ามหาวิทยาลัยมีนโยบายอย่างเด็ดขาดเคร่งครัดที่ ห้ามมีการรับน้องไม่ว่าในสถานที่ หรือนอกสถานที่ หรือการประชุมเชียร์ใดๆ อย่างเด็ดขาด ตามประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เรื่อง งดการจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ และประชุมเชียร์ ประจำปีการศึกษา 2564 ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้รับทราบเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วยความเสียใจยิ่ง และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนักศึกษาที่ต้องสูญเสียบุตรผู้เป็นที่รัก และอนาคตของชาติ อันเป็นผลจากการกระทำของกลุ่มนักศึกษาที่กระทำลงไปโดยขัดกับประกาศและกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรงยิ่ง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวผู้กระทำผิดเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีถึงที่สุดต่อไป

 

 

ผศ.ณรงค์ระบุว่า จากการดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะเริง และ สภ.เมืองนครราชสีมา ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าเหตุเกิดขึ้นช่วงปิดภาคการศึกษา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค.65 เวลาประมาณ 23.00 น. มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวส.ปีที่ 1 และระดับ ปวส.ปีที่ 2 ประมาณ 60 คน สถานที่เกิดเหตุอยู่ภายนอกมหาวิทยาลัย ห่างจากมหาวิทยาลัยกว่า 10 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาชาย ปวส.ชั้นปีที่ 1 โดยมีนักศึกษารุ่นพี่ที่รับผิดชอบกิจกรรมนี้ ประมาณ 6 คน ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่าเป็นการขัดระเบียบคำสั่งของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง และจะต้องมีบทลงโทษนักศึกษาผู้ร่วมก่อเหตุทุกคนอย่างถึงที่สุด ส่วนจะถึงขั้นพักการเรียนหรือไล่ออกหรือไม่นั้น ก็คงจะต้องไปประชุมคณะกรรมการสอบสวนของมหาวิทยาลัยก่อน รวมทั้งต้องนำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบพิจารณาอีกครั้ง

 

ผศ.ณรงค์กล่าวว่า หลังจากนี้มหาวิทยาลัยจะต้องไปพูดคุยกับฝ่ายพัฒนางานนักศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดกิจกรรมรับร้องที่อยู่ภายนอกมหาวิทยาลัย เพราะทุกวันนี้เรามีมาตรการป้องกันกิจกรรมรับน้องใหม่ในมหาวิทยาลัยอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว โดยเน้นไปที่การรับน้องแบบสร้างสรรค์ ไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง ยิ่งอยู่ในช่วงการระบาดโควิด-19 ด้วย เราจะไม่ให้มีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อแน่นอน

 

ผศ.ณรงค์กล่าวว่า เรื่องการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิตนั้น อธิการบดีมีนโยบายให้รับผิดชอบความช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ โดยจะมีกองทุนนักศึกษาที่จะช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่ ภายใต้การพูดคุยกับผู้ปกครองของนักศึกษาว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ผู้ปกครองของนักศึกษาที่เสียชีวิตได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะเริง และได้พบผู้บริหารของมหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ร่วมมือกับ พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง อย่างใกล้ชิด เพื่อสอบสวนหาผู้กระทำผิดมารับการลงโทษตามกฎหมายต่อไป

 

ด้าน ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00-23.00 น วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นนักศึกษาระดับ ปวส.ชั้นปีที่ 1 และปีที่ 2 ประมาณ 60 คน สถานที่เกิดเหตุอยู่ภายนอกมหาลัย ห่างจากมหาวิทยาลัยเป็นระยะทางประมาณ 10 กม. ผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ส่วนผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้มีประมาณ 6 ราย ขณะนี้ผู้ปกครองของผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้ปกครองของนักศึกษากลุ่มผู้ก่อเหตุทราบเรื่องและเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะเริง และผู้บริหารของมหาลัยเพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง