เปิดรายชื่อ 5 โรคที่มากับสายฝน พร้อมวิธีป้องกันตนเองไม่ให้ป่วย
วันนี้ ( 23 ก.ย. 64 ) สำนักงานกองทุนสนับสนุนส่งเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้เผยแพร่ข้อมูล 5 โรคระบาด ที่มากับหน้าฝน ซึ่งมีอันตรายไม่แพ้โรคโควิด-19 และ หลายคนอาจมองข้ามไปและไม่ได้ระมัดระวังตัว ด้วยสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิที่ลดต่ำลงเรื่อยๆนี้ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้โรคหลายชนิด แต่ละปีมีผู้ป่วยนับแสนราย
1.โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน กลุ่มโรคติดต่อของระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อย เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารที่ลำไส้ รวมไปถึงโรคบิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ
อาการ - ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาจมีไข้ ปวดบิดในท้อง และหากติดเชื้อ บิดอาจมีมูกหรือเลือดอุจจาระปนได้
คำแนะนำ - กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
2.โรคไข้หวัดใหญ่ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อย ซึ่งปัจจุบันมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ H3N2 และโรคไข้หวัดนกที่มีแหล่งแพร่ระบาดมาจากสัตว์ปีก เชื้ออาจมีการผสมข้ามสายพันธุ์กับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในคนที่อยู่ในช่วงระบาดในฤดูฝนได้
อาการ - ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีน้ำมูกและไอร่วมด้วย ภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงคือ ภาวะปอดอัคำแนะนำ - ใช้ผ้าปิดจมูก ล้างมือบ่อยๆ
3.โรคฉี่หนู (Leptospirosis) กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง มักพบการติดเชื้อชนิดนี้ได้ในสุนัขหรือสัตว์ตามฟาร์ม เช่น สุกร โค กระบือ รวมถึงสัตว์จำพวกหนู ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ เกษตรกร คนงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ คนหาปลาตามแหล่งน้ำจืด ผู้ที่ทำงานขุดท่อระบายน้ำ และคนที่ย่ำน้ำในที่น้ำท่วมขังนานๆ เป็นต้น
อาการ - ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง ตาแดง ประมาณร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยโรคนี้อาจมีอาการรุนแรง เช่น ดีซ่าน ไตวาย หรือช็อกได้
คำแนะนำ - ไม่ลุยน้ำขัง ใส่รองเท้าบูท
4.โรคไข้เลือดออก กลุ่มโรคที่มาจากยุง มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งกว่าร้อยละ 80 เป็นยุงลายที่อยู่ในบ้าน ซึ่งจะวางไข่ในน้ำที่ขังอยู่ตามที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีโรคไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis) และโรคมาลาเรียที่ต้องระวัง
อาการ - ผู้ป่วยระยะแรกจะมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป ได้แก่ อาการไข้ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีอาการปวดกระดูกมาก ไข้จะสูงอยู่ประมาณ 2-7 วัน หลังจากนั้นไข้จะลดลง พร้อมกับอาการเลือดออกผิดปกติ มือเท้าเย็นหรือช็อกได้
คำแนะนำ - ทายากันยุง อยู่ห่างจากที่ยุงชุม กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์
นอกจากนี้หากโดนน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา อาจทำให้เป็นโรคตาแดงหรือโรคเยื่อบุตาอักเสบ หรือการแช่น้ำสกปรกนานๆ ก็เป็นที่มาของปัญหาน้ำกัดเท้าที่เกิดจากเชื้อราได้เช่นกัน พบแพทย์ด่วน เมื่อมีอาการน่าสงสัย