รีเซต

Microsoft ปรับตัวเตรียมนำปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT มาใช้กับ Bing

Microsoft ปรับตัวเตรียมนำปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT มาใช้กับ Bing
TNN ช่อง16
5 มกราคม 2566 ( 08:04 )
49
Microsoft ปรับตัวเตรียมนำปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT มาใช้กับ Bing

การมาถึงของ ChatGPT ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กล่าวกันว่าสามารถตอบคำถามทุกอย่างบนโลกได้ ส่งผลให้เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) ผู้ให้บริการค้นข้อมูลชั้นนำต้องปรับตัวให้ทันกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ล่าสุดไมโครซอฟท์ (Microsoft) ผู้ให้บริการค้นข้อมูล Bing ประกาศแผนการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้พัฒนาบริการของ Bing ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฟีเชอร์ปัญญาประดิษฐ์ที่บริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) กำลังพัฒนาอยู่นี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคม ทางบริษัทต้องการสร้างความแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างกูเกิล (Google) ที่กำลังพยายามปรับตัวนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาพัฒนาบริการค้นข้อมูลเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้กูเกิล (Google) ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) อันดับหนึ่งของโลกได้ประกาศ "Code Red" หรือ "รหัสแดง" แจ้งเตือนภัยอันตรายของ ChatGPT ที่อาจกระทบต่อธุรกิจของกูเกิล โดยทางกูเกิล (Google) และอัลฟาเบต (Alphabet) จะมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้พัฒนาบริการมากขึ้น

สำหรับ ChatGPT ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) ห้องปฏิบัติการวิจัยปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร บริษัทเคยได้รับเงินลงทุนก้อนหนึ่งจากอีลอน มัสก์ ในปี 2015 รวมไปถึงเงินลงทุนจากบริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 33,850 ล้านบาท ในปี 2019


บริษัท โอเพนเอไอ (OpenAI) เปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถทดสอบใช้งาน ChatGPT ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากนักพัฒนาโปรแกรมเมอร์ทั่วโลกเป็นอย่างมาก นอกจากการพัฒนา ChatGPT ผลงานสร้างชื่อของบริษัทแห่งนี้ที่เคยเปิดตัว เช่น DALL·E เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างภาพกราฟิกจากการป้อนคำพูดและการวาดรูปภาพที่น่าทึ่ง


แม้ว่าจุดประสงค์หลักของการพัฒนา Chat GPT ไม่ได้ใช้เพื่อการเป็นเสิร์ชเอนจิน (Search Engines) คู่แข่งโดยตรงของ Bing และ Google แต่ขีดความสามารถของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของข้อมูลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งในด้านของการสร้างสรรค์ผลงานและการค้นหาข้อมูลที่มีความชัดเจนตรงตามความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง

ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Reuters  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง