ผบช.ภ.2 ลงพื้นที่ติดตามปัญหาการลักลอบเข้าประเทศของแรงงานชาวกัมพูชาใน จ.สระแก้ว
สระแก้ว – ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางลงพื้นที่ติดตามปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาในพื้นที่ จ.สระแก้ว พบสถานการณ์รุนแรงขึ้น สามารถจับกุมได้ 421 คน ผู้นำพา 5 คน และผลักดันชาวกัมพูชาออกนอกประเทศแล้ว จำนวน 15,396 คน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องตาพระยา-บึงตะกวน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและติดตามปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ในช่วงที่ประเทศไทยปิดด่านชายแดนสกัดกั้นการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายหลังร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว
โดยมี พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ,พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผบ.ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ตำรวจท้องที่ ทหารและเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมตำรวจตระะเวนชายแดนที่ 12 รายงานข้อมูลผลการปฏิบัติงานปราบปรามและป้องกันการลักลอบเข้าประเทศตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบข้ามแดนได้ จำนวน 421 คน พร้อมผู้นำพา จำนวน 5 คน และผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศ จำนวน 15,396 คน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า กรณีปัญหาการลักลอบของแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปของตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว กองกำลังบูรพา และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งผู้ที่เราจับกุมตัวได้ที่ทำเป็นขบวนการ ได้ดำเนินการไปแล้ว และที่น่ากังวลคือ สถิติข้อมูลการย้อนกลับมาอีกครั้ง ของแรงงานต่างด้าว โดยจะทำกรณีนี้ให้เป็นระบบ ซึ่งผู้หลบหนีเข้าเมืองส่วนใหญ่จะเป็นคนงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยแยกเป็น 3 ส่วนคือ พวกที่มีหนังสืออนุญาตให้ทำงาน ,มีบอร์ดเดอร์พาสเดินทางเข้ามาค้าขายหรือท่องเที่ยว และพวกที่น่ากลัวคือ คนกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ยังระบุด้วยว่า การดำเนินการแก้ปัญหาขณะนี้ได้มอบหมายให้ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเพื่อให้การปฏิบัติของฝ่ายทหารและตำรวจ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และส่วนที่เกี่ยวข้อง กำลังเข้าตรวจสอบกลุ่มเครือข่ายและขบวนการนำพาแรงงานลักลอบเข้าประเทศ ได้มีการสอบสวนโดยเฉพาะกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการไปแล้ว ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้อง ทางเราจะไม่ละเว้น หากมีเจ้าหน้าที่กระทำความผิด จะดำเนินการจนถึงที่สุด