GULFไม่หวั่นสูตรก๊าซ

#GULF #ทันหุ้น - GULF ชี้ อีบิทดาปีหน้าโต 15% จากปีนี้ เนื่องจาก “โรงไฟฟ้า COD อีก 683 เมกะวัตต์-รับรู้กำไรโรงไฟฟ้า Jackson - LNG-ADVANC” เพิ่ม ตั้งงบลงทุน 5 ปี (2569-73) 1-1.2 แสนล้านบาท  มุ่งพลังงานสะอาด-ธุรกิจ New S Curve  จ่อออกหุ้นกู้ปี 2569 อีก 6-7 หมื่นล้านบาท   แจงกำลังพิจารณาจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง  ยันปรับสูตร Pool Gas-ลดค่าไฟ กระทบน้อย เหตุขายไฟให้อุตสาหกรรมเพียง 6%

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 2569 เติบโต 15% จากปี 2568 เนื่องจาก บริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เพิ่ม 683 เมกะวัตต์ ส่งผลสิ้นปีมีกำลังผลิตรวม 17,203 เมกะวัตต์ ทำให้รับรู้กำไรเพิ่มขึ้น และรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson Generation ในประเทศสหรัฐ เพิ่มอีก  1,000-1,200  ล้านบาทต่อปี เนื่องจาก Capacity Payment ที่ปรับเพิ่มขึ้น

@ปัจจัยหนุนกำไรเพียบ

โดย Capacity Payment จะปรับเพิ่มขึ้นอีกในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็น 2569 เป็น 329 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมกะวัตต์ต่อวัน   จาก 270 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมกะวัตต์ต่อวัน เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้า Data Center ที่สูงขึ้น  และบริษัทคาดว่าจะมีกำไรจากธุรกิจ LNG 1,200-1,500 ล้านบาท จากการนำเข้าที่เพิ่มเป็น 4-5 ล้านตัน และการเพิ่มประสิทธิภาพการนำเข้าก๊าซ รวมถึงมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมาจะเปิดให้บริการในไตรมาส 3/2569 นอกจากนี้ ADVANC มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการขยาย 5G และคอนเทนต์บันเทิง ทำให้บริษัทรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC สูงขึ้น

“หลังจากปี 2569 บริษัทคาดว่าอีบิทด้าจะเติบโตปีละ 10-15% จากที่บริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่ๆ COD ต่อเนื่องทุกปีไปจนถึงปี 2576 และรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีแผนลงทุนแตะ 300-500 เมกะวัตต์ ในอีก 3-5 ปี”

สำหรับ GULF ถือเป็นบริษัทโกรทคอมพานี โดยเน้นเรื่องการเติบโตของกำไร ทำให้ต้องมีการใช้เงินลงทุนที่สูง แต่บริษัทก็เข้าใจความคาดหวังของนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในเรื่องเงินปันผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่เคยได้รับเงินปันผล 2 ครั้งต่อปี  โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาจ่ายเงินปันผลปีละ  2 ครั้ง  แต่ก็จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ซึ่งหากมีความคืบหน้าก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

@งบลงทุน 5 ปี 1.2 แสนลบ.

 นางสาวยุพาพิน กล่าวว่า  บริษัทตั้งเป้างบลงทุน 5 ปี  (2569-73) มูลค่า 1-1.2 แสนล้านบาท  แบ่งเป็น 68% ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และอีก 18% จะลงทุนในธุรกิจNew S Curve  เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ AI ฯลฯ   ที่เหลือลงทุนในก๊าซ ฯลฯ โดยหากเป็นงบลงทุนเฉพาะปี 2569 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่  2569 จะใช้เงินลงทุน 2.5-3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด 33%  ลงทุนในธุรกิจ New S Curve  เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์  คลาวด์ AI สัดส่วน 61% ที่เหลือลงทุนในธุรกิจอินฟราสตรัคเจอร์ และธุรกิจก๊าซ

สำหรับแหล่งเงินทุนก็จะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท การกู้จากสถาบันการเงิน และการออกหุ้นกู้ โดยในปี 2569 บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ 6-7 หมื่นล้านบาท  โดยเป็นการออกหุ้นกู้สกุลเงินบาท และสกุลเยน เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนดและใช้ลงทุนในโครงการต่างๆ ของบริษัท  จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง ทำให้บริษัทมีต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง

@Q4 งบดีต่อเนื่อง

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2568 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่จะ CODเพิ่มครบ 7โครงการกำลังผลิต 597 เมกะวัตต์ และได้รับผลดีช่วงฤดูกาลโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทยและที่เยอรมัน และบริษัทจะมีการนำเข้า LNG เพิ่มในไตรมาส 4 ปีนี้ ทำให้สิ้นปีนี้นำเข้ารวมเป็น 4 ล้านตัน จากไตรมาส 3 ที่ผ่านมานำเข้าไปแล้ว  3.1 ล้านตัน

อย่างไรก็ตามบริษัทมีความสนใจเข้าร่วมโครงการโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์  และโครงการ Direct  PPA   เพราะบริษัทมีโครงการพลังงานสะอาดหลายโครงการที่พร้อมที่จะขายไฟให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ที่สร้างใหม่  ส่วนค่าไฟที่ลดลง และการปรับสูตร Pool Gas ใหม่นั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัทมากขึ้น เพราะส่วนใหญ่ 94% ของบริษัทมีการขายไฟตรงให้กับทางการไฟฟ้า มีเพียง 6% เท่านั้นที่มีการขายให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม