รีเซต

ผู้เลี้ยงกุ้งสุดช้ำ ออกไปเลี้ยงกุ้งสู้ราคาตกต่ำ ซ้ำบ้านถูกไฟไหม้ เสียหายทั้งหลัง

ผู้เลี้ยงกุ้งสุดช้ำ ออกไปเลี้ยงกุ้งสู้ราคาตกต่ำ ซ้ำบ้านถูกไฟไหม้ เสียหายทั้งหลัง
มติชน
15 กันยายน 2565 ( 22:36 )
28
ผู้เลี้ยงกุ้งสุดช้ำ ออกไปเลี้ยงกุ้งสู้ราคาตกต่ำ ซ้ำบ้านถูกไฟไหม้ เสียหายทั้งหลัง

ผู้เลี้ยงกุ้งสุดช้ำ ออกไปเลี้ยงกุ้งสู้ราคากุ้งตกต่ำ กลับบ้านเหลือแต่ซาก ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง เพื่อนบ้านเผยพยายามใช้ถังดับเพลิงช่วย

เมื่อวันที่ 15 กันยายน ร.ต.อ.ชัยศรี ผลดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่งใน ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ของ นางสิรินดา เสือดี อายุ 56 ปี อาชีพเลี้ยงกุ้ง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม องค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้วและใกล้เคียง รวม 6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงครามเข้าฉีดน้ำดับเพลิง แต่เนื่องจากเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกลามไปทั้งบ้าน มีเสียงระเบิดจากในบ้านเป็นระยะๆ

เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้า และใช้เวลาฉีดน้ำเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยนางสิรินดานั่งร่ำไห้ เนื่องจากเจอวิกฤตราคากุ้งตกต่ำ ซ้ำบ้านยังถูกเพลิงไหม้หมดทั้งหลัง

ผู้ใหญ่สุภาวดี ม่วงงาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางแก้ว กล่าวว่า ปกตินางสิรินดาจะอยู่กับลูกชาย 2 คน ก่อนเกิดเหตุนางสิรินดาออกไปเลี้ยงกุ้งกับลูกชายทั้ง 2 คน หวังหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวในสภาวะราคากุ้งที่ตกต่ำ ขณะนั้นได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าไฟไหม้บ้านนางสิรินดา ซึ่งไม่มีคนอยู่บ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่และคว้าถังดับเพลิงออกไปหวังช่วยดับเพลิง

ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า เมื่อไปถึงพบเพลิงลุกลามแล้ว ภายในบ้านมีเสียงระเบิดดังมากเป็นระยะๆ กลัวมากแต่ก็อยากช่วยเหลือลูกบ้าน จึงพยายามใช้ถังดับเพลิงฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่มาฉีดน้ำดับเพลิงไว้ได้

จากการสอบสวนเบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เนื่องจากทุกคนในบ้านออกไปเลี้ยงกุ้ง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสภาพบ้านไม้เก่า ปลูกสร้างมานาน ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบสาเหตุและประเมินความเสียหายอีกครั้ง

ส่วนการช่วยเหลือ นายกิตติชัย ตันประเสริฐ นายก อบต.บางแก้ว ซึ่งลงพื้นที่มาบัญชาการและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง