ป้าอ้วนตากใบ ขนลุก ปลายสายสั่งซื้อกุเลา เสิร์ฟโต๊ะเอเปค ปลื้มส่งต่อความอร่อยผู้นำโลก

นราธิวาส- เจ้าของร้านป้าอ้วน รับขนลุก ปลายสายสั่งซื้อกุเลา เสิร์ฟโต๊ะเอเปค ปลื้มส่งต่อความอร่อยให้ผู้นำโลก ดีใจมีออเดอร์รัวๆ ของดีนราธิวาสสร้างชื่อ

หนึ่งในเมนูที่ได้จะได้เป็นอาหารสำหรับเสิร์ฟในงานกาลาร์ดินเนอร์สำหรับผู้นำประเทศเอเปค 2022 คือ “ปลากุเลาเค็มตากใบ” อาหารจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสูตรลับเฉพาะของชาวอำเภอตากใบ โดยเป็นปลาสายพันธุ์ท้องถิ่นของจังหวัดนราธิวาสที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือราคาแห่งปลาเค็ม

ปลากุเลาเค็มตากใบ จะเดินทางไปรังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษอยู่ในเซทอาหารจานหลัก  โดยจะเป็นส่วนผสมของ ซอสราดมัสมั่นเนื้อน่องโคขุน จากสหกรณ์โพนยางคำจังหวัดสกลนคร และ ข้าวกล้อง 9 ชนิดอบตะตะไคร้หอม เพื่อเพิ่มรสสัมผัสที่โดดเด่นให้กับเมนูอาหารที่เสิร์ฟให้กับผู้นำเอเปค 2022 มาจากร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ ร้านเก่าแก่ดั้งเดิมที่อยู่คู่ตากใบมาอย่างยาวนาน

น.ส.พรจรัส ปฐมศิริกุล เจ้าของร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ เผยว่า  ตั้งแต่ได้ฟังข่าวจากวิทยุ และจากโทรทัศน์ว่า ปลากุเลาเค็มตากใบ ได้รับเลือกให้เป็นเมนูอาหารสำหรับผู้นำเอเปคก็รู้สึกดีใจมาก เพราะจะทำให้ปลากุเลาเค็มตากใบ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายกว่านั้นคือทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างล้นหลามทุกช่องทาง

“เดิมขายได้วันละ 1-2 ตัว หรือประมาณ 800 กรัม – 1กิโลกรัม หรือบางวันขายไม่ได้เลย กลายเป็นรับออเดอร์แทบไม่ทัน ตั้งแต่ 11.00-21.00 น. ขายได้มากกว่า 10 กิโลกรัม และยังมีการสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่าการสั่งซื้อมากกว่า 50,000 บาท

“และที่ตื่นเต้นดีใจที่สุด คือเสียงโทรศัพท์สายหนึ่งที่แจ้งว่าโทรมาสั่งซื้อปลากุเลาเค็ม 1 ตัว น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมจากบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อนำไปจัดทำเมนูอาหารสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค ความรู้สึกตอนนั้น คือดีใจมาก ขนลุกไปทั้งตัว เพราะไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่และเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของร้านป้าอ้วน

“ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุน และสร้างชื่อให้กับปลากุเลาเค็มตากใบ จากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นที่รู้จักระดับโลก กลุ่มผู้ประกอบการปลากุเลาทั้ง 9 กลุ่มของอำเภอตากใบ ที่ได้รับการพัฒนาคุณภาพที่เป็นมาตรฐานพร้อมที่จะรับออเดอร์ เพื่อส่งต่อความอร่อยของปลากุเลาเค็มตากใบไปถึงทุกครัวเรือนทั่วไทย” น.ส.พรจรัส กล่าว 

ทั้งนี้ สำหรับปลากุเลาเค็มตากใบ แม้จะมีราคาสูง กิโลกรัมละ 1,700 บาท แต่ก็เป็นเพราะทุกขั้นตอนการผลิตมีความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่ใช้ปลากุเลาจากในพื้นที่ ควบคุมเวลาในการตาก ความแห้งของเนื้อปลา และรสชาติที่เค็มกำลังดี  ทำให้มีลักษณะเฉพาะ เนื้อปลาจะแห้งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสชาติความเค็มที่กลมกล่อม เมื่อนำมาทอดเนื้อจะฟู และร่วนซุยแทบละลายในปาก

เมนูที่ทำง่าย และการันตีความอร่อย คือ ปลากุเลาเค็มทอด โรยด้วยพริกซอย หอมแดงซอย โรยน้ำตาลเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยน้ำมะนาวอีกนิดนำไปคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจนต้องเติมข้าวอีกหลายจาน หรือหากจะนำไปดัดแปลงเป็น ข้าวผัดปลากุเลาเค็ม คะน้าปลาเค็ม หลนปลากุเลาเค็ม ก็ได้

ทั้งหมดล้วนแล้วมีรสชาติความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป