รีเซต

เจาะ 3 กลุ่มทุน "ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา" Virtual Bank ครั้งแรกในไทย เริ่มให้บริการปีหน้า

เจาะ 3 กลุ่มทุน  "ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา"  Virtual Bank  ครั้งแรกในไทย เริ่มให้บริการปีหน้า
TNN ช่อง16
21 มิถุนายน 2568 ( 08:00 )
13

"ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา"  Virtual Bank


ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้สมควรจัดจัดตั้ง Virtual Bank 3 ราย ดังนี้


1. บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด (แอสเซนด์ มันนี่ เครือซีพี)

เครือ Ascend Money ผู้ให้บริการ TrueMoney  ผนึกกำลังกับ CP Group ที่มีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายค้าปลีก และ Ant Financial บริษัทภายใต้ Alibaba ที่สนับสนุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน) 


2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)


การรวมตัวของธนาคารใหญ่ของรัฐ พร้อมด้วย AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ รวมถึง PTTOR หรือ โออาร์ ที่มีเครือข่ายปั๊มน้ำมันและร้านค้าปลีกครอบคลุมทั่วประเทศ 


3. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp.


การรวมตัวกันของ SCBX ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ จับมือกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp.  ส่วน KakaoBank เป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำจากเกาหลีใต้ ที่มีประสบการณ์ตรงและเชี่ยวชาญในการทำ Virtual Bank


นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ธปท. ได้พิจารณาคำขออนุญาต เอกสารหลักฐาน และข้อมูลประกอบการขออนุญาตของผู้ขออนุญาต ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) เสร็จสิ้นแล้ว 


ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจาก รมว.การคลัง ข้างต้น จะต้องดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คลัง กำหนด รวมถึงผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank และต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปีนับแต่วันที่รัฐมนตรีคลังให้ความเห็นชอบ


นางรุ่ง กล่าวว่า ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายชื่อ ที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank นี้ ถือว่าแต่ละรายมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะเป็นการช่วยเต็มเติมการให้บริการในระบบ สามารถครอบคลุมฐานลูกค้าได้หลากหลาย โดยเฉพาะเอสเอ็มอีรายเล็ก และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือไม่ได้มีรายได้ประจำ ซึ่งผู้ประกอบการทุกราย มีความพร้อมและมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ผู้เล่นในปัจจุบันได้ปรับตัว โดยในภาพรวม ถือว่าตอบโจทย์ในการเข้ามาปิดช่องว่างการให้บริการแก่กลุ่มที่เป็น Unserved และ Underserve เช่น SME รายย่อย เพื่อให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น


นอกจากนี้ ในอนาคตมีโอกาสที่ ธปท. จะเปิดให้มีการยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank ในรอบถัดไป และไม่ได้ปิดกั้นโอกาสการเข้ามายื่นขอใบอนุญาตของผู้ประกอบการที่ไม่ผ่านการพิจารณาในรอบแรกนี้ แต่คงต้องขอติดตามผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการทั้ง 3 รายนี้ ไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน


ส่วนที่มีความกังวลในการให้ใบอนุญาตดังกล่าว จะเป็นการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ที่เปิดดำเนินธุรกิจอยู่แล้วหลายประเภทในปัจจุบัน ให้มีอำนาจเหนือตลาด หรือครอบงำตลาดหรือไม่นั้น นางรุ่ง ระบุว่า “ไม่กังวลในจุดนี้” เพราะมีกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนและรัดกุมอยู่แล้ว อีกทั้งในขั้นตอนการสัมภาษณ์ ผู้ประกอบการต่างให้คำมั่นว่าจะดำเนินการอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ ธปท.วางไว้


อย่างไรก็ดี ในระยะ 3-5 ปีแรกที่เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจ Virtual Bank ธปท.จะติดตามอย่างใกล้ชิดเป็นรายบริษัท ว่าได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้หรือไม่ รวมทั้งจะติดตามภาพรวมของทั้งระบบด้วยเช่นกัน ซึ่งจะดูควบคู่กันไปทั้ง 2 มิติ ส่วนในอนาคต หากผู้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank จะมีการเพิ่มเติมพันธมิตรทางธุรกิจ ก็สามารถทำได้ แต่จะต้องไม่ส่งผลให้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของผู้ถือหุ้นจนมีนัยสำคัญ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะต้องมารายงานให้ ธปท.รับทราบและพิจารณาก่อน





ลำดับเวลาการจัดตั้ง Virtual Bank  

*วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank


*วันที่ 19 มิถุนายน 2568 – 19 มิถุนายน 2569 ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank จากกระทรวงการคลัง (รวมเวลาไม่เกิน 1 ปี) ตามขั้นตอนดังนี้


– จัดตั้งบริษัทมหาชน

– ทุนจดทะเบียนและการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ถือหุ้น

– ความพร้อมในการประกอบกิจการตามแผนด้าน People/ Process / System และการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง


*ผู้ที่ผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ยื่นขอรับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank ต่อ ธปท. จากนั้นเสนอความเห็นกระทรวงการคลังพิจารณาออกใบอนุญาต


*** วันที่ 19 มิถุนายน 2569 Virtual Bank ที่มีความพร้อมเริ่มให้บริการ




คนไทยได้อะไร ? จากการมี Virtual Bank


1. สถานการณ์ระบบการเงินไทยในปัจจุบัน

– น้อยกว่า 50% ของ SMEs รายเล็กเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงิน

– ผู้มีรายได้น้อย / ไม่มีรายได้ประจำจำนวนมาก ต้องกู้เงินนอกระบบ ดอกเบี้ย 100-300%

– สัดส่วน 76% ของผู้มีรายได้น้อย / ไม่มีรายได้ประจำ มีเงินออมเผื่อต้องหยุดงานกะทันหันไม่ถึง 6 เดือน


2. Virtual Bank จะนำเทคโนโลยี ข้อมูลและความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล เพื่อเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ดีขึ้น


3. มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น โดยเฉพาะ SMEs รายเล็ก กลุ่มรายได้น้อย / ไม่มีรายได้ประจำ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ร้านค้าขนาดเล็ก เกษตรกร


4. ได้รับบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ หลากหลาย และเหมาะสมขึ้น เช่น สินเชื่อ SMEs รายเล็กที่กำหนดจ่ายคืนสอดคล้องกับรายรับ ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่เลือกงวดการออมที่เหมาะสมกับงวดรายรับ


5. ได้รับบริการทางการเงินที่ดีขึ้น เช่น ต้นทุนถูกลง บริการเร็วขึ้น จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการแข่งขันในระบบสถาบันการเงินที่มากขึ้น

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง