2 โบรกฯ ส่องงบ Q4/68 แบงก์ KTB-BBL-SCB แนะกลยุทธ์ลงทุน

#ทันหุ้น-บล.ทรีนีตี้ แนะนำหุ้นธนาคารกรุงไทย หรือ KTB ซึ่งในเชิงพื้นฐานได้ปรับคำแนะนำเป็น"ซื้อเมื่ออ่อนตัว" เนื่องจาก Upside ค่อนข้างจำกัด แต่ในเชิงกลยุทธ์ KTB ถือเป็นหุ้นปันผลหนึ่งตัวที่ฝ่ายวิจัยชื่นชอบ ซึ่งมักจะปรับตัวได้ดีในช่วง 3-4 เดือนแรกของทุกๆ ปี จึงมองว่าสามารถถือครองได้

ฝ่ายวิจัยทรีนีตี้ คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/68 ของ KTB อยู่ที่ 11,108 ล้านบาท อ่อนตัว 24% QoQ และทรงตัว YoY ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรลดลงค่อนข้างมาก QoQ มากจากที่ในไตรมาส 3/68 มีกำไรจากการ mark-to-market เงินลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ THAI ขณะที่ไตรมาสนี้ราคาหุ้น THAI อ่อนตัวลง

นอกจากนี้อาจเห็น NIM ลดลงเล็กน้อย ตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อยตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ Credit Cost คาดทรงตัวตามแนวโน้มคุณภาพหนี้ที่คาดว่าจะทรงตัวเช่นกัน ทั้งนี้กำไรทั้งปี 2569 อาจเห็นกำไรอ่อนตัว YoY จากกำไรเงินลงทุนที่ลดลง และ NIM ทีอาจปรับตัวลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ด้านบล.กรุงศรี ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซึ่งแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 155 บาท เพราะธนาคารบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี , มีปันผลเด่น dividend yield สูงอันดับต้นในกลุ่มธนาคารที่ 8% ต่อปี โดยในครึ่งหลังปี 2568 คาดจ่ายเงินปันผลที่ 9.23 บาทต่อหุ้น คิดเป็น dividend yield 7%

สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 4/68 ของ SCB ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 1.09 หมื่นล้านบาท กำไรลดลง 7% YoY และลดลง 10% QoQ เพราะการลดลงของ NIM สินเชื่อรวม เงินลงทุน (FVTPL) รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio คาดที่ 3.40% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/68 ที่ 3.30% จากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ส่วนหุ้นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ฝ่ายวิจัยกรุงศรี แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 180 บาท เพราะคาดว่าธนาคารสามารถรักษาระดับเงินปันผล dividend yield 6% ส่วนในครึ่งหลังปี 2568 คาดจะอยู่ที่ 7.50 บาทต่อหุ้น dividend yield 5%, มีจุดแข็งด้านงบดุล และราคาหุ้น BBL ซื้อขายถูกที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ Forward PBV 0.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารที่ 0.9 เท่า

สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 4/68 ของ BBL ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 1.17 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY เพราะการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน (FVTPL)และการลดลงของค่าใช้จ่ายอื่น ขณะที่กำไรลดลง 15% QoQ เพราะการลดลงของ NIM และเงินลงทุน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน