หุ้น 'เมต้า' บริษัทแม่เฟซบุ๊ก ร่วง 22% นักลงทุนเทขายเหตุกำไรหด

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ระบุว่า “บริษัทเมต้า” บริษัทแม่ของ “เฟซบุ๊ก” ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อมาใหม่ หุ้นร่วงลงมากถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเวลาซื้อขายนอกเวลาทำการ ผลจากต้นทุนที่สูงขึ้นกับการคาดการณ์รายได้ที่ไม่มากนักสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ส่งผลให้มูลค่าหุ้น เมต้า หายไปมากถึงเกือบ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 6.6 ล้านล้านบาท

รายงานระบุว่าหุ้นของ “เมต้า” ร่วงลงไปอยู่ที่ 22.6 เปอร์เซ็นต์ ไปเป็น 249.9 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาซื้อขายนอกเวลาทำการ และหากราคายังคงอยู่ในระดับนี้จนเปิดตลาดในเช้าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ตามเวลาสหรัฐ มูลค่าตลาดโดยรวมของเมต้าจะหายไปมากกว่าขนาดเศรษฐกิจของประเทศกรีซทั้งประเทศเลยทีเดียว

นักวิเคราะห์ระบุว่าสาเหตุที่หุ้น “เมต้า” ดิ่งลงเป็นผลมาจากการลงทุนไปกับ “เมต้าเวิร์ส” ระบบเวอร์ชวลเรียลิตี้ ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปพบปะผู้คน ทำงาน และเล่นในโลกเสมือน โดยใช้อุปกรณ์วีอาร์, แว่นตา, สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ด้วยเงินมหาศาล คิดเป็นเงินมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้การคาดการณ์รายได้ในไตรมาสนี้ เมต้า ออกมาเปิดเผยว่าจะต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้เนื่องจากการแข่งขันจากสื่อโซเชียลอื่นๆเช่น TikTok ที่เติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาห่วงโซ่อุปทานติดขัดทั่วโลก ปัญหาแรงงานขาดแคลน การพึ่งพารายได้จากโฆษณาเพียงอย่างเดียว รวมไปถึงปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ทำให้ เมต้าไม่สามารถนำข้อมูลผู้ใช้งานมาใช้ในการโฆษณาให้ตรงวัถุประสงค์ได้มากเหมือนเดิมเป็นต้น