รีเซต

เปิดสถิติช็อก 220,000 คนจาก 66 ประเทศ ติดกับแรงงานไซเบอร์เมียนมา-กัมพูชา

เปิดสถิติช็อก 220,000 คนจาก 66 ประเทศ ติดกับแรงงานไซเบอร์เมียนมา-กัมพูชา
TNN ช่อง16
21 ตุลาคม 2568 ( 11:08 )
12

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นศูนย์กลางของปฏิบัติการหลอกลวงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ด้วยมูลค่าความเสียหายหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ที่น่าตกใจคือ เบื้องหลังความสำเร็จทางการเงินมหาศาลนี้คือชะตากรรมอันน่าสลดใจของแรงงานหลายแสนคนที่ถูกหลอกลวงและบังคับให้กลายเป็นเครื่องมือในขบวนการอาชญากรรม

มิติของปัญหาที่ขยายตัวอย่างน่าตกใจ

องค์การสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) เปิดเผยข้อมูลที่น่าตระหนกว่า ความเสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่าระหว่าง 18,000 ถึง 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 การวิจัยของสถาบัน United States Institute of Peace ชี้ให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า กัมพูชา เมียนมา และลาว สามประเทศที่เป็นฐานที่มั่นหลักของขบวนการนี้ สร้างรายได้จากกิจกรรมอาชญากรรมรวมกันถึงปีละ 43,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบร้อยละ 40 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของทั้งสามประเทศรวมกัน

กัมพูชาเพียงประเทศเดียวมีรายได้จากศูนย์หลอกลวงประมาณ 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี มากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจที่ถูกกฎหมายทั้งหมด ข้อมูลจากหน่วยงาน Financial Crimes Enforcement Network ของสหรัฐอเมริการะบุว่า Huione Group ในกัมพูชาซักฟอกเงินกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2564 โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินจากการโจมตีไซเบอร์ของเกาหลีเหนือและการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล

แรงงานที่ถูกกักขัง จำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ประเมินว่ามีผู้ถูกค้ามนุษย์มากกว่า 220,000 คนถูกกักขังในศูนย์หลอกลวงในเมียนมาและกัมพูชาเพียงสองประเทศ โดยเมียนมามีอย่างน้อย 120,000 คน และกัมพูชามีประมาณ 100,000 คน รายงานล่าสุดของ INTERPOL ในปี 2568 ระบุว่ามีเหยื่อจากกว่า 66 ประเทศทั่วโลกถูกส่งไปยังศูนย์เหล่านี้

องค์กร Amnesty International ได้สัมภาษณ์ผู้ถูกค้ามนุษย์ 58 คน รวมถึงเด็ก 9 คน และระบุศูนย์หลอกลวงในกัมพูชาอย่างน้อย 53 แห่งที่เจ้าหน้าที่รัฐเพิกเฉยต่อการรายงาน ผู้ถูกค้ามนุษย์ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่มีทักษะทางเทคโนโลยีและภาษา มาจากพื้นที่ที่มีอัตราการว่างงานสูง อาทิ ไต้หวัน อินเดีย ศรีลังกา และประเทศในแอฟริกา

กระบวนการหลอกลวงที่แยบยล

ขบวนการอาชญากรรมเริ่มต้นด้วยการโฆษณาตำแหน่งงานที่ดูน่าเชื่อถือในสาขาบริการลูกค้า เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเขียนโปรแกรม ผู้หลอกลวงจะจัดการสัมภาษณ์งานอย่างมืออาชีพ สื่อสารกับเหยื่ออย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เมื่อเหยื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย หนังสือเดินทางจะถูกยึดทันที พวกเขาจะถูกขังไว้ในสถานที่ที่มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และถูกบังคับให้ทำงานหลอกลวงคนอื่นทั่วโลก

ผู้ถูกกักขังต้องทำงาน 15 ถึง 17 ชั่วโมงต่อวัน ภายใต้การคุกคามด้วยความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีการแยกตัวจากภายนอก การจำกัดการเคลื่อนไหว ค่าปรับและค่าธรรมเนียมตามอำเภอใจ การคุกคามทางเพศ และการยึดเอกสารส่วนตัวรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หลายรายถูกหลอกซ้ำโดยมิจฉาชีพที่แกล้งทำเป็นผู้มาช่วยเหลือ ทำให้ตกอยู่ในวงจรของการถูกหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

สถานการณ์คนไทยที่ตกเป็นเหยื่อ

มูลนิธิกระจกเงารายงานว่าตลอดปี 2568 จนถึงเดือนตุลาคม มีการรับแจ้งคนไทยที่ถูกหลอกไปเป็นแรงงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา ลาว และเมียนมา 119 ราย ประกอบด้วยชาย 73 ราย หญิง 46 ราย รวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 18 ราย โดยผู้ที่อายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 15 ปี และผู้สูงอายุที่สุดอายุ 65 ปี ที่น่าเป็นห่วงคือมี 25 รายที่ยังไม่ทราบชะตากรรมและกำลังรอความช่วยเหลือ

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระบุว่าในปี 2568 สามารถช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในเมียนมาได้ 266 คนให้กลับสู่ประเทศไทย ขณะที่กองทัพไทยรายงานในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่ามีการส่งกลับผู้เสียหายต่างชาติจากเมียนมา 6,258 คน ในเดือนตุลาคม 2568 เพียงเดือนเดียว มีการช่วยเหลือคนไทย 11 คนที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา โดยตำรวจและทหารได้เข้าช่วยเหลือทันก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งข้ามแดนไป

ผลกระทบต่อประเทศไทยและการหลอกลวงภายในประเทศ

สถานการณ์การหลอกลวงออนไลน์ในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2567 มีการแจ้งความเกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์มากกว่า 463,712 คดี มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 59,000 ล้านบาท

การวิจัยของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2566 พบว่าคนไทยกว่า 36 ล้านคนเคยถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ โดยกว่าครึ่งหรือประมาณ 18.37 ล้านคนตกเป็นผู้เสียหาย มีความเสียหายรวม 49,845 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 2,660.94 บาทต่อคน กลุ่ม Gen Y เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้เสียหายมากที่สุดและมีมูลค่าความเสียหายสูงสุด

แก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ ในช่วงมีนาคม 2565 ถึงสิงหาคม 2568 มีผู้เสียหายชาวไทยเกือบ 1 ล้านคน ด้วยมูลค่าความเสียหาย 97,991 ล้านบาท แม้ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะคิดเป็นเพียงร้อยละ 11 ของจำนวนคดีทั้งหมด แต่กลับสร้างความเสียหายถึงร้อยละ 15 ของมูลค่ารวม

การใช้เทคโนโลยีใหม่ในการก่ออาชญากรรม

UNODC เตือนว่าขบวนการอาชญากรรมกำลังนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้อย่างแพร่หลาย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 พบว่ามีการพูดถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ deepfake ที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มอาชญากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 600

การใช้ AI ทำให้อาชญากรสามารถสร้างโฆษณางานปลอมที่น่าเชื่อถือมากขึ้น สร้างโปรไฟล์และรูปภาพปลอมผ่านเทคโนโลยี deepfake สำหรับการหลอกลวงทางเพศและการหลอกลวงรักออนไลน์ ศูนย์หลอกลวงบางแห่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างน่าตกใจ ตามคำให้การของวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่เคยถูกบังคับให้ช่วยพัฒนาระบบ AI ให้กับอาชญากร นอกจากนี้ยังพบว่าศูนย์หลอกลวงเริ่มใช้อุปกรณ์ดาวเทียมเพื่อรักษาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างการบุกจับกุม โดยตำรวจไทยสกัดจาน Starlink ได้ 38 จานในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2568

การตอบสนองของรัฐบาลไทย

รัฐบาลไทยได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (AOC 1441) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 31 พฤษภาคม 2568 สายด่วน AOC 1441 รับสายเข้ารวม 1,769,958 สาย ส่งผลให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงถูกระงับการใช้งาน 686,515 บัญชี และตรวจสอบความเสียหายมูลค่า 29,750 ล้านบาท

ในปี 2565 มีการดำเนินคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ 8 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 166 คน ปิดกั้นหมายเลขโทรศัพท์และข้อความหลอกลวง 118,530 หมายเลข อายัดบัญชีม้า 58,463 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชียลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า 8 กลุ่ม

การบังคับใช้มาตรการตัดน้ำ-ตัดไฟ และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ส่งผลให้จำนวนคดีอาชญากรรมออนไลน์ลดลงประมาณร้อยละ 20 และคดีคอลเซ็นเตอร์ลดลงถึงร้อยละ 67 มูลค่าความเสียหายลดลงประมาณ 200 ล้านบาทใน 1 เดือน และเมื่อเทียบกับปีก่อนลดลงร้อยละ 30

ความร่วมมือระหว่างประเทศและผลกระทบระดับโลก

การหลอกลวงที่ดำเนินการจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่งผลกระทบต่อเหยื่อในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก สหรัฐอเมริกาประเมินว่าชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการหลอกลวงที่มาจากภูมิภาคนี้ในปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 จากปีก่อน ความสูญเสียจากการหลอกลวงลงทุนออนไลน์ของชาวอเมริกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมารวมกว่า 16,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรประกาศคว่ำบาตรกลุ่ม Prince Group TCO ในกัมพูชา เมื่อเดือนตุลาคม 2568 โดยระบุว่ากลุ่มนี้ควบคุมการไหลของเงินผิดกฎหมายหลายพันล้านดอลลาร์ และดำเนินการอย่างน้อย 10 ศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ขบวนการนี้ได้กำไรจากอาชญากรรมข้ามชาติหลายประเภท รวมถึงการเรียกค่าไถ่ทางเพศ การฟอกเงิน การพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์และทรมานแรงงานทาสในระดับอุตสาหกรรม

กระทรวงการต่างประเทศไทยรายงานว่าสหรัฐอเมริกาจัดอันดับไทยอยู่ที่ Tier 2 ในรายงาน Trafficking in Persons (TIP) Report 2025 เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน โดยยกย่องความก้าวหน้าในการเพิ่มการสืบสวน ดำเนินคดี และลงโทษ รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือข้ามพรมแดน

ทิศทางและข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหา

UNODC เสนอให้รัฐบาลในภูมิภาคต้องตระหนักถึงความร้ายแรง ขนาด และการแพร่กระจายของภัยคุกคามระดับโลกนี้ โดยให้ความสำคัญกับแนวทางแก้ไขที่จัดการกับระบบนิเวศอาชญากรรมที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในภูมิภาค INTERPOL รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับการฝึกอบรมให้มองเห็นสัญญาณของการค้ามนุษย์สู่ศูนย์หลอกลวงสามารถสกัดกั้นเหยื่อที่มีศักยภาพได้เกือบ 800 คน ในปี 2566

นักวิจัยเสนอว่าการแก้ปัญหาต้องครอบคลุมหลายมิติ ตั้งแต่การปฏิรูปกฎหมาย การเพิ่มขีดความสามารถของหน่วยงานปราบปราม การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ การปิดช่องว่างทางธรรมาภิบาล การจัดการกับคอร์รัปชัน และการสนับสนุนผู้รอดชีวิตให้สามารถกลับเข้าสู่สังคมได้

ปัญหาการค้ามนุษย์เพื่อบังคับใช้แรงงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กลายเป็นวิกฤตระดับโลกที่มีผู้ได้รับผลกระทบหลายแสนคนและสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ความท้าทายยังคงมีอยู่เนื่องจากขบวนการอาชญากรมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและย้ายฐานปฏิบัติการไปยังพื้นที่ใหม่เมื่อถูกปราบปราม การแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างจริงจังและการดำเนินการที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การปราบปราม การป้องกัน ไปจนถึงการฟื้นฟูผู้เสียหาย เพื่อขจัดวงจรอุบาทว์ที่แรงงานผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่นี้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง