รีเซต

SIPRI ชี้สหรัฐฯ ครองเบอร์หนึ่ง 'ขายอาวุธ' มากสุดในโลก

SIPRI ชี้สหรัฐฯ ครองเบอร์หนึ่ง 'ขายอาวุธ' มากสุดในโลก
Xinhua
6 ธันวาคม 2565 ( 13:54 )
40
SIPRI ชี้สหรัฐฯ ครองเบอร์หนึ่ง 'ขายอาวุธ' มากสุดในโลก

สตอกโฮล์ม, 6 ธ.ค. (ซินหัว) -- รายงานจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) ของสวีเดน เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ระบุว่ากลุ่มบริษัทของสหรัฐฯ ครองอันดับหนึ่งของโลกด้านยอดจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์

ยอดจำหน่ายอาวุธของบริษัทสหรัฐฯ 40 แห่ง ซึ่งอยู่ในรายชื่อบริษัทค้าอาวุธ 100 อันดับแรกของโลก มีมูลค่ารวม 2.99 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.46 ล้านล้านบาท) ในปี 2021 ลดลงร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับปี 2020ขณะบริษัทค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุด 5 แห่งของโลก นับจากปี 2018 ล้วนตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ส่วนกระแสการควบรวมกิจการของอุตสาหกรรมค้าอาวุธสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2021

หนานเทียน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันฯ แสดงความคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการอย่างจริงจังยิ่งขึ้นในการจำกัดการควบรวมกิจการของอุตสาหกรรมค้าอาวุธในอนาคตอันใกล้ โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่าการแข่งขันที่ลดลงในอุตสาหกรรมค้าอาวุธอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อต้นทุนการจัดซื้อและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แม้เผชิญความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แต่ยอดจำหน่ายอาวุธและบริการทางการทหารของบริษัทค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุด 100 แห่งแรก ยังคงสูงถึง 5.92 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20.72 ล้านล้านบาท) ในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับปี 2020 ในแง่มูลค่าที่แท้จริง ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ของยอดจำหน่ายอาวุธทั่วโลก

รายงานชี้ว่าอุตสาหกรรมค้าอาวุธหลายส่วนยังคงได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกในปี 2021 อันเป็นผลจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งรวมถึงความล่าช้าในการขนส่งและการขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญทั่วโลกลูซี เบอโร-ซูเดร ผู้อำนวยการโครงการผลิตอาวุธและรายจ่ายทางการทหารของสถาบันฯ คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายอาวุธอาจเติบโตมากขึ้นในปี 2021 หากไร้ซึ่งปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานอันยืดเยื้ออนึ่ง งานวิจัยของสถาบันฯ ครอบคลุมประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ อาวุธยุทโธปกรณ์ การควบคุมอาวุธ และการลดอาวุธ

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ฝูงเครื่องบินโชว์ลีลาบินผาดโผนภายในงานแปซิฟิก แอร์ โชว์ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ วันที่ 1 ต.ค. 2022)

 


(แฟ้มภาพซินหัว : กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ วันที่ 19 ก.พ. 2020)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง