หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ทำกิจการไข่ขายดี ฝากถึงครอบครัวแก๊งสุดเจ็บ

หนุ่มพ่อค้าไข่ที่ อ.นางรอง บุรีรัมย์ ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินทางมือถือ แล้วยังโดนแก๊งนี้โทรศัพท์มาเยาะเย้ยในวันถัดไป เผยหลังเป็นข่าวยอดขายดีขึ้น ส่วนใหญ่อยากรู้เรื่อง พร้อมยินดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยึดอาชีพหลอกลวง ถ้าลูกเมียคุณ พ่อแม่คุณ ดีใจในหน้าที่การงานของคุณ เราดีใจด้วย

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม  กรณีนายณัฐพล ปะขิโต อายุ 31 ปี เจ้าของร้านคลังไข่ ตลาดเทศบาลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาอ้างว่าเป็นสรรพกร แล้วให้โหลดโปรแกรมติดตั้งในโทรศัพท์เพื่อจะทำการยกเลิกโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ก่อนจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าไปควบคุมการทำงานของโทรศัพท์มือถือ แล้วทำการโอนเงินในบัญชีออกไป

ซึ่งการให้ข่าวของนายณัฐพล ระบุว่า เงินในบัญชีหายไปประมาณ 14,000 บาท สุดท้ายในวันถัดมาหลังเป็นข่าว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เกิดความไม่พอใจที่ให้ข่าวบิดเบือน โทรศัพท์มาเตือนให้แก้ข่าว เพราะเงินที่ได้ไปไม่ใช่ 14,000 แต่เป็น 190,000 บาท การให้ข่าวแบบนั้นทำให้แก๊งได้รับความเสียหาย สูญเสียศักยภาพของแก๊ง ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดนายณัฐพล ได้ออกมาเปิดเผยอีกว่า ตอนนี้ตนถือเป็นกระบอกเสียงให้กับคนทั่วไปแล้ว เพราะมีคนเข้ามาถามเป็นจำนวนมาก แวะมาซื้อไข่พร้อมสอบถามเพื่ออยากรู้เป็นวิทยาทาน บอกทุกคนที่มาถาม เขาก็จะซื้อไข่ติดมือไปด้วย ทำให้มียอดขายไข่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

นายณัฐพล กล่าวด้วยว่า เงินที่เขาได้ไปไม่มาก ไม่น้อย เพราะยังมีกำลังหาได้อยู่ ไม่ตายหาได้ใหม่ สิ่งที่ตนพอใจในตอนนี้คือ คนที่โดนหลอกหลายคน ได้เข้าไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ไม่กล้าเพราะกลัวอับอาย ส่วนทางคดีตำรวจกำลังเร่งทำงาน โทรมาถามเป็นประจำ

สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาหลอกตนเอง ตนไม่ถือสาอะไร ความสามารถใครความสามารถมัน เส้นทางชีวิตใคร เส้นทางชีวิตมัน ส่วนตนจะยึดอาชีพสุจริตต่อไป ส่วนเขาเมื่อตั้งใจยึดอาชีพนี้แล้วก็ทำไป ถ้าครอบครัวเขา ลูกเมียเขา หรือพ่อแม่ของเขา ดีใจกับการหาเงินเก่ง ตนก็ดีใจด้วย แค่อยากถามถึงความยั่งยืนเท่านั้น

นายเชฏฐา แซ่พู อายุ 66 ปี ลูกค้าของร้านคลังไข่ บอกว่าวันนี้มาให้กำลังใจเจ้าของร้าน ที่กล้าอกมาเล่าโดยไม่อายใคร เป็นการแจ้งเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันมากขึ้น เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ถ้ามีคนมาหลอกในลักษณะนี้อีก ก็เจ็บปวด