สหรัฐทำสถิติติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 7 ล้านรายแล้ว เสียชีวิตกว่า 2แสนราย

วันนี้ (25ก.ย.63) สหรัฐอมริกาทำสถิติมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทะลุ 7 ล้านรายไปแล้วในวันพฤหัสบดี หรือมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก ขณะที่ รัฐต่าง ๆ ในแถบมิดเวสต์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในเดือนกันยายน จากข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่รวบรวมจากการรายงานของรัฐบาล โดยตัวเลขล่าสุดนี้ มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วประเทศพุ่งเกิน 200,000 ราย สูงที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละวัน จะมีผู้เสียชีวิตกว่า 700 รายในสหรัฐ 

รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในประเทศ 800,000 ราย ตามด้วยรัฐเท็กซัส, ฟลอริดาและนิวยอร์ก นอกจากนี้ รัฐในแถบมิดเวสต์ ยกเว้นโอไฮโอ รายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วง 4 สัปดาห์ก่อน ซึ่งนำโดยรัฐเซาท์ ดาโกตาและนอร์ท ดาโกตา โดยรัฐเซาท์ ดาโกตา ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุด 8,129 ราย หรือ 166 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรัฐนอร์ท ดาโกตา เพิ่มขึ้นสองเท่าอยู่ที่ 8,752 ราย เมื่อเทียบกับ 4,243 ราย ในช่วงเดียวกันของเดือนสิงหาคม   

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นใน 2 รัฐนี้ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการจัดงานแรลลีมอเตอร์ไซค์ประจำปี ในเมืองสเตอร์กิส รัฐเซาท์ ดาโกตา ซึ่งเป็นงานประจำปี ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลายหมื่นคน

จากข้อมูลของรอยเตอร์ พบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในเดือนนี้ เพิ่มขึ้นใน 25 รัฐจากจำนวน 50 รัฐ ซึ่งในจำนวนนี้มี 10 รัฐ ที่ผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดในวันเดียวในเดือนกันยายน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากลดลงติดต่อกัน 8 สัปดาห์ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเชื่อว่า การเพิ่มขึ้นเป็นเพราะการกลับมาเปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และการจัดงานปาร์ตี้ในช่วงหยุดยาววันแรงงานด้วย