รีเซต

PTTGC กลับมาแจ่ม64 ศก.ฟื้นดันสเปรดปิโตร

PTTGC กลับมาแจ่ม64 ศก.ฟื้นดันสเปรดปิโตร
ทันหุ้น
13 พฤศจิกายน 2563 ( 08:30 )
74
PTTGC กลับมาแจ่ม64 ศก.ฟื้นดันสเปรดปิโตร

ทันหุ้น - PTTGC มองผลการดำเนินงานในปี 2564 กลับมาเติบโตดี หลังคาดราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีฟื้นตัว ตามความต้องการ หลังเศรษฐกิจโลกกลับมาบวก คาดน้ำมันดิบเฉลี่ย 42-47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กำลังผลิตปิโตรเคมีรวมเพิ่มอีก 10% แตะระดับ 12.33 ล้านตัน เดินหน้าลงทุนซื้อกิจการตามหาธุรกิจ High Value Business

 

นายจิตศักดิ์ สุนทรพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 จะเติบโตดีเมื่อเทียบปี 2563 จากความต้องการของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับมุมมองเศรษฐกิจปีหน้าจะฟื้นตัว ประเมิน เศรษฐกิจโลกจะเติบโตประมาณ 4-5% จากปี 2563 นี้ที่คาดว่าจะติดลบ 4-5% โดยเริ่มมีสัญญาการบวกจากกระแสการใช้วัคซีนรักษาโรคไวรัสโควิด-19 ได้จริงในเร็วๆ นี้เป็นตัวช่วยหนุนภาพรวม

 

@ปี64ผลงานโตต่อ

 

บริษัทประเมิน ราคาน้ำมันดิบดูไบเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 42-47ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในปี 2564 จากปีนี้ที่เฉลี่ยราว 41-43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประกอบกับ คาดว่าราคานํ้ามันดีเซล (Diesel /Gas Oil) จะเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับราคา 7-8ดอลลาร์ต่อตัน จากปีนี้ที่ 5-7 ดอลลาร์ต่อตัน

 

ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจ Ethylene ประเภท HDPE ราคาปรับจะเพิ่มขึ้นแตะ 880-960 ดอลลาร์ต่อตัน จากในปีนี้ที่ประมาณ 820-900 ดอลลาร์/ตัน ตามความต้องการเพิ่มขึ้น ส่วน Paraxylene ในปีหน้าคาดราคายืนเหนือระดับ 200 ดอลลาร์ต่อตันได้ สำหรับ Benzene คาดราคาจะอยู่ที่เหนือระดับ 100-130 ดอลลาร์ต่อตัน เป็นต้น

 

@กำลังผลิตเพิ่ม

 

นอกจากนี้ บริษัทมองว่าในปี 2564จะมีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรวมในเพิ่มอีกกว่า 10%หรือแตะที่ระดับ 12.33 ล้านตัน จากสิ้นปี 2563 นี้ อยู่ที่ 11.27 ล้านตัน เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคม 2563 บริษัทจะมี 3 โครงการหลักที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่งผลให้บริษัทจะมีกำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่มขึ้นจากโรงโอเลฟินส์หน่วยใหม่ (ORP) กำลังการผลิตติดตั้ง 750,000 ตัน และโครงการ PO/Polyols กำลังการผลิตติดตั้ง 310,000 ตัน

 

สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตในปีหน้าคาดว่าปรับตัวดีขึ้น โดยกำลังการผลิตโรงกลั่นน้ำมันปีหน้าจะแตะ 103%, โรงอะโรเมติกส์แตะ 103% ขณะที่โรงโอเลฟินส์ในปี 2564จะอยู่ที่ 95% ลดลงจากปี 2563 นี้ 97% หลังมีแผนการการปิดซ่อมบำรุงของโรงโอเลฟินส์หน่วยที่ 3 ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 3 เป็นเวลา 39 วัน และคาดการณ์การใช้กำลังการผลิตของธุรกิจโพลิเมอร์หรือเม็ดพลาสติกจะอยู่ที่ 105% เป็นต้น

 

ส่วนแผนการลงทุนในปี 2564 นั้น บริษัทยังคงมีโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปีนี้ อาทิ โครงการรีไซเคิลแพลน และเอ็นจิเนียริ่งพลาสติก ซึ่งเป็น 2โครงการหลักที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ส่วนการลงทุนโครงการอื่นๆ ในตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนที่มีความเหมาะสมกับทิศทางธุรกิจในอนาคต คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในช่วงปลายปี 2563 นี้ ส่วนแผนการเข้าซื้อกิจการ (M&A) บริษัทยังคงมองหาการลงทุนในกลุุ่มธุรกิจ High Value Business ที่สามารถเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพให้กับผลิตถัณฑ์เดิมที่มีอยู่ได้มากขึ้น

 

@ กูรูเชียร์"ซื้อ"55บ.

 

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ไตรมาส 4/2563 อุปสงค์จะแข็งแกร่งต่อเนื่อง ดังนั้นค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า สำหรับแผนกลยุทธ์ของ PTTGC เพื่อการเติบโตระยะยาว บริษัทมีเป้าหมายในการขยายสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง รวมทั้งการขยายสู่ธุรกิจใหม่ในกล่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและปิโตรเคมีจะหนุนค่าการกลั่น, ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่และกำไรหลักในไตรมาส 4/2563 และปี 2564 โดยกำลังการผลิตใหม่อาจเป็นอัพไซต์ต่อส่วนต่างราคาและประมาณการกำไร ทางฝ่ายจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 55 บาท

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง